เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 ก.ย. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เริ่มตั้งแต่ 10.00 น. ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้คณะกรรมการการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ไปปรับแก้เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย โดย 1.ในประเด็นที่กรธ.กำหนดเป็นมาตรา 272 วรรคสอง ของร่างรัฐธรรมนูญว่ากรณีไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอ ให้ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ มีสิทธิเสนอต่อประธานรัฐสภาเพื่อยกเว้นได้นั้น เห็นว่าควรเป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่จะต้องเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องดังกล่าวให้ผ่านพ้นไปด้วย สมตามเจตนารมณ์ของผลการออกเสียงประชามติ ดังนั้น กรธ.แก้ไขให้ผู้มีสิทธิเสนอขอยกเว้นการเสนอชื่อนายกฯ จากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองคือสมาชิกรัฐสภา จำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา

นายพิมล กล่าวอีกว่า 2.ในประเด็นที่ กรธ.กำหนดเป็นมาตรา 272 วรรคหนึ่งว่า “ในระยะ 5 ปีแรก” นับแต่วันที่มีรัฐสภา ภายหลังการเลือกตั้งส.ส.ตามมาตรา 268 และวรรคสองบัญญัติว่า “ในวาระเริ่มแรก” เมื่อมีการเลือกส.ส.ตามมาตรา 268 แล้ว หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกฯจากบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองที่แจ้งไว้ ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา มีมติยกเว้นไม่ต้องเสนอชื่อนายกฯจากบัญชีพรรคการเมือง เห็นว่าการกำหนดระยะเวลาวันเริ่มนับกำหนดเวลาตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคหนึ่งและวรรคสองต้องสอดคล้องกัน จึงได้กำหนดให้ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภา เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ เพื่อให้ได้นายกฯเข้ามาทำหน้าที่บริหารราชการในช่วงเวลาเดียวกัน และสามารถขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ สำเร็จบรรลุผลตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและเจตนารมณ์ที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ซึ่งที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาจะต้องประกอบด้วยส.ส.และส.ว. ดังนั้น กำหนดเวลาและวันเริ่มนับเวลาตามร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคหนึ่งและวรรค 2 คือ ในระหว่าง 5 ปีแรก นับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญ

“ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผลการออกเสียงประชามติ ในประเด็นคำถามพ่วงที่ประชาชนได้ให้ความเห็นชอบถึงร้อยละ 58.07 การกำหนดเวลาและวันเริ่มนับกำหนดเวลาตามร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคหนึ่งและวรรคสอง จึงถือเป็นสาระสำคัญของผลการออกเสียงประชามติจึงจำเป็นต้องแก้ไขให้สอดคล้อง กรธ.ต้องไปดำเนินการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย รวมทั้งปรับแก้ถ้อยคำในคำปรารภให้สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว” นายพิมล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่คำวินิจฉัยกลาง ที่ส่งให้กรธ.ในวันนี้ โดยมีทั้งสิ้น 19 หน้า โดยระบุเหตุผลในการปรับแก้ว่า การเสนอขอยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกฯจากบัญชีของพรรคการเมือง แม้ไม่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาให้ความเห็นชอบตัวบุคคล ผู้จะเป็นนายกฯตามถ้อยคำในประเด็นคำถามพ่วงก็ตาม แต่การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญผลการออกเสียงประชามติ จำต้องแก้ไขให้สอดคล้องกันทุกส่วนทุกขั้นตอน รวมถึงขั้นตอนการเสนอขอยกเว้นดังกล่าวด้วย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการกำหนดให้ส.ส.เป็นองค์กรมีสิทธิเสนอขอยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกฯจากบัญชีพรรคการเมือง โดยอาศัยเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของเท่าที่มีอยู่ หากการดำเนินการในขั้นตอนการรวบรวมรายชื่อเพื่อให้ถึงจำนวนดังกล่าวเกิดข้อขัดข้อง เป็นเหตุให้กระบวนการทั้งหมดต้องล่าช้า หรือไม่ว่าด้วยเหตุใด ย่อมส่งผลกระทบต่อความราบรื่นในกระบวนการได้มา ซึ่งนายกฯที่ต้องดำเนินการภายใต้การตัดสินใจ ร่วมกันของที่ประชุมรัฐสภา

ดังนั้น เพื่อให้บรรลุผลตามเจตนารมณ์ของผลการออกเสียงประชามติในประเด็นคำถามพ่วงร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคสองที่มุ่งหมายให้เป็นทางออกกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกฯได้ จึงจำเป็นให้ส.ว.ร่วมเป็นผู้เสนอขอยกเว้นดังกล่าวไว้ด้วย

ส่วนกำหนดเวลาและวันเริ่มนับเวลา ตามร่างรัฐธรรมนูญ 272 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ที่ศาลรัฐธรรมนูญให้มีการแก้ไขนั้น การเขียนบทบัญญัติลักษณะดังกล่าวของกรธ. อาจทำให้เกิดข้อขัดแย้ง ได้ว่าหมายถึงรัฐสภาชุดใดแน่ อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเริ่มนับเวลาของรัฐสภาจากการเริ่มจากความเป็นส.ส.เท่านั้น ส่วนที่กรธ.บัญญัติคำว่า “ในวาระเริ่มแรก” เมื่อมีการเลือกส.ส. อาจทำให้เข้าใจว่าหมายถึงเลือกตั้งส.ส.ครั้งแรกเท่านั้น ไม่สามารถนำการเสนอขอยกเว้นการเลือกนายกฯจากบัญชีพรรคการเมืองมาใช้ได้อีก หากเกิดกรณีนายกฯต้องพ้นจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ แล้วต้องให้ความเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเป็นนายกฯใหม่ในระหว่าง 5 ปีแรก ตามร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน