ไฟไหม้รถ ก๊าซ NGV เพลิงลุกโชนใต้บูรพาวิถี เหตุเพราะเบรกค้าง!

เมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วัฒนกิจ ยอดอาจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุ ไฟไหม้รถ บรรทุกก๊าซ NGV ที่บริเวณถนนบางนา-ตราด ขาเข้าช่องทางด่วน หลักกิโลเมตรที่ 15 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว และรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางพลีใหญ่ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คัน เดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุในช่องทางด่วนได้พบไฟกำลังลุกไหม้ รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกก๊าซ NGV ยี่ห้อ ฮีโน สีบรอนซ์เทา หัวรากทะเบียน 63-1552 กรุงเทพมหานคร ห่างพ่วงทะเบียน 60-8492 กรุงเทพมหานคร ซึ่งบรรทุกถังบรรจุก๊าซ NGV มากว่า 100 ถังโดยเปลวเพลิงได้ลุกไหม้รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวท่วมทั้งคันและระบบเซฟตี้วาวล์ได้โบวล์ก๊าซที่บรรจุอยู่ชตามถังต่าง ออกเพื่อลดแรงดันภายในถังจึงทำให้เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นด้านบนท่วมใต้ทางด่วนบูรพาวิถี

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเปลวไฟนานเกือบ 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวเสียหายหมดทั้งคัน โชคดีที่ถังบรรจุก๊าซกว่า 100 ถังที่บรรทุกมาไม่เกิดระเบิดแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนรถบรรทุกก๊าซคันดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งคัน

จากการสอบถามนายจำลอง จันทมณี อายุ 32 ปี คนขับรถบรรทุกก๊าซคันดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนได้ขับรถออกมาจากโรงบรรจุก๊าซ NGV จำนวน 125 ถัง ออกมาจากโรงงาบรรจุก๊าซย่านบางบ่อ เพื่อจะนำไปส่งต่างปั้มก๊าซในย่านซอยนวลจันทร์ กรุงเทพมหานคร

ขณะขับมาถึงจุดเกิดเหตุอยู่ ๆ ยางหลังด้านซ้ายได้เกิดระเบิดขึ้น ตนจึงได้พยายามประคองรถเข้าจอดข้างทาง ก่อนจะเกิดเปลวไฟกำลังขึ้นที่บริเวณท้ายรถตนและคนงานที่มาด้วยกันได้ช่วยนำถังเคมีไปฉีดเพื่อดับเปลวเพลิงแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงได้เนื่องจากระบบเซฟตี้วาวล์ทำงานโบวล์ก๊าซที่อยู่ในถังทั้งหมดทิ้งจึงทำให้เปลวเพลิงลุกท่วมรถทั้งคันอย่างรวดเร็ว

ตนจึงและคนงานจึงได้รีบวิ่งหนีตายออกมา และรีบโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ในระหว่างที่รถวิ่งมาเบรกของรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวน่าจะค้างจึงให้เกิดความร้อนจนทำให้ยางหลังระเบิดกระทะล้อซึ่งเป็นเหล็กจึงครูดกับพื้นถนน จนเกิดประกายไฟและลุกไหม้ขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน