เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ห้องประชุมศูนย์เทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสาร ชัยจินดา กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ถนนวิภาวดีรังสิต พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.กองกำกับการสายตรวจ บก.สปพ. พร้อมด้วยนายเกษม ชลันธร ผอ.ติดตามผลเครื่องยนต์ และยานยนต์ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. บก.จร. และเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ร่วมกันประชุมวางแผน เตรียมลงพื้นที่จับกุมเป้าหมายร้านนำเข้าจำหน่าย หรือดัดแปลงท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการดัดแปลงสภาพรถจักยานยนต์เพื่อนำไปแข่งบนทางสาธารณะ
พ.ต.อ.จักรเพชร กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้สืบเนื่องมาจากตามนโยบายของทางรัฐบาล สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ดำเนินการเกี่ยวกับการกวาดล้างกลุ่มจักรยานยนต์ที่แข่งในทางสาธารณะ และมีการมอบหมายให้ทาง บก.สปพ. นำโดยทาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. เร่งรัดกวาดล้างเหล่าบรรดานักซิ่งรถแว้นป่วนเมืองตามท้องถนนไปก่อนหน้านี้
กระทั่งมีการดำเนินงานขยายผลจับกุมโรงงานผลิตท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ ที่ไม่ได้มาตรฐานและในวันนี้ทาง บก.สปพ.ได้สนธิกำลังกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อลงพื้นที่กวาดล้างร้านจำหน่ายหรือดัดแปลงท่อไอเสียในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด 4 จุด จำนวน 8 ร้าน ทั้งนี้ ทางตำรวจจะปฏิบัติการด้วยความละมุนละม่อม อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนมีการแถลงสรุปผลจับกุมต่อไป
ด้านนายเกษม กล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง สมอ.ได้ร่วมมือกับทางตำรวจ 191 ในการตรวจจับร้านจำหน่าย นำเข้า ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร จนส่งผลให้ผู้ที่กระทำความผิดลดลงไปค่อนข้างมาก จากจำนวนเดิมที่มีร้านจำหน่ายจำนวนเป็น 100 ร้าน และโรงงานนับสิบแห่ง โดยวันนี้ทางตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าพื้นที่ในการลงไปตรวจมีการลักลอบดัดแปลงและขายท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทางสมอ. จึงลงมาร่วมกันตรวจสอบอีกครั้งเพื่อหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ขั้นตอนการตรวจสอบมีอยู่หลายวิธี แต่วิธีหลักๆ นั้นคือการตรวจสอบเครื่องหมายสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน (มอก.) อย่างเช่นท่อไอเสียที่ได้มาตรฐานจะต้องมีมาตรฐานของเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบล และการเชื่อมต่อส่วนต่างๆต้องได้ตามมาตรฐาน รวมไปถึงการตรวจสอบคุณลักษณะของอุปกรณ์ส่วนควบว่าตรงตามมาตรฐานด้วยหรือไม่
ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ191 และเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้านที่ร้านเจริญมอเตอร์ เลขที่ 500/10-11 และที่ร้านอู่ทอง เลขที่ 500/15-16 ซอยเพิ่มสิน 8 และ10 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์และรับซ่อมรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นร้านอยู่ในข่ายต้องสงสัย แต่ก็ไม่พบท่อไอเสียที่ดัดแปลงและมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย จึงเดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังตรวจค้นหลายจุด และจะมีการรวบรวมข้อมูลมาแถลงข่าวสรุปยอดการจับกุมอีกครั้ง
จากนั้น เวลา 18.00 น. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.งานสายตรวจ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.อำนาจ หาญชนะ รอง ผกก.ป. นางเบญจมาพร เอกฉัตร์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.สปพ. ตำรวจ สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ สมอ. เข้าตรวจค้นที่ตึกแถวเลขที่ 12/16-17 ซอยพหลโยธิน 48 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
โดยจุดที่ตรวจค้นเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นอู่ซ่อมรถจยย. และรับแต่งรถจยย. ชื่อร้านช่างสมหมายพหลโยธิน 59 โดยมีนายสมหมาย ทรงบรรพต หรือช่างสมหมาย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 10 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เป็นเจ้าของร้าน จากการตรวจสอบพบท่อไอเสียไม่มีตรามอก.จำนวน 44 ท่อ และโครงรถจยย.ยี่ห้อคาวาซากิ เออาร์150 ซีซี จำนวน 5 โครง เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบว่ามีทะเบียน และครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
นางเบญจมาพร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ทางสมอ.ร่วมกับตำรวจ บก.สปพ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ในการตรวจสอบร้านขายอุปกรณ์แต่งรถ ท่อไอเสียรถจยย.ที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก.ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ให้ดำเนินการปราบปรามกลุ่ม รถจยย.ซิ่งบนท้องถนน เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับมลภาวะทางเสียง โดยตามมาตรฐานเสียงท่อรถจยย.ต้องมีความดังไม่เกิน 95 เดซิเบล สำหรับผู้ประกอบกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถจยย. สามารถไปขอใบอนุญาตประกอบกิจการได้ที่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อให้ได้มาตราฐานและถูกต้องตามกฎหมาย
จากการสอบสวนนายสมหมาย เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านรับซ่อมรถจยย.มาแล้ว ก่อนหน้าประมาณ 1 เดือน เคยถูกจับมาครั้งหนึ่งแล้วคดี อยู่ในชั้นศาลและก็มาถูกจับอีกครั้ง สำหรับที่ร้านรับซ่อมและตกแต่งรถ ส่วนท่อที่ถูกจับครั้งนี้เป็นท่อสแตนเลสผสมไททาเนียม ราคาใบละ 2 หมื่นบาท ซึ่งทางเจ้าของรถนำมาให้ใส่เอง แต่ที่ร้านไม่ได้นำมาจำหน่าย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยรู้อยู่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพ.ศ.2511) และไม่มีใบอนญาตประกอบกิจการ นำตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
