นวย – จากกรณีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างทำกระเป๋าหรูหาย.. แล้ว ‘นวย’ ซึ่งเป็นกรรมกรก่อสร้าง เก็บได้แล้วส่งคืนให้เธอ โดยโพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่เธอทำกระเป๋าแบรนด์หรูหล่นหาย ปรากฏว่ามีคนเก็บได้แล้วส่งคืนทางไปรษณีย์ โดยของข้างในกระเป๋าอยู่ครบ ขาดแค่เงินเพียง 200 บาท เท่านั้นที่หายไป

โดยผู้เก็บกระเป๋าไว้ได้แล้วส่งคืน ใช้ชื่อว่า ‘นวย’ เขียนข้อความในกระดาษ ระบุว่า “ผมเจอตกที่กำแพง ผมเป็นคนดี แต่ผมจน ผมขอค่าเหล้า 1 ขวด ค่าไปรษณีย์ ค่าเสียเวลา 200 ไม่รู้ว่าใครคือผม ผมสบาย ปิดทองหลังพระ นวย”

ต่อมาหญิงสาวดังกล่าวยังโพสต์ยืนยันอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง อ้างว่าสามารถติดต่อ “นวย”ทางโทรศัพท์ได้ กระทั่งมีเสียงเรียกร้องจากชาวเน็ตให้พา “นวย” มาปรากฏตัวต่อสาธารณชน เพื่อคลายข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เนื่องจากหญิงสาวเจ้าของโพสต์เป็นแม่ค้าออนไลน์ อาจมีเจตนาอื่นแอบแฝง

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. ที่บก.ปอท. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท. ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องจากเรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชน และอาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ สร้างความสับสนในสังคม พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ขวัญชัย พัฒรักษ์ ผกก.3 บก.ปอท. สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ ตามหาพยานต่างๆ จนทราบว่า เรื่องราวดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ออกหมายเรียกหญิงสาวเจ้าของโพสต์ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในสัปดาห์หน้าเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง

ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“อยากฝากเตือนประชาชนที่นำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีเจตนาทุจริต และอาจเกิดความเสียหายกับประชาชน เพื่อมุ่งหวังผลบางประการ ทั้งในเรื่องผลประโยชน์ หรือความสนุกคึกคะนอง อาจเข้าข่ายความผิดที่จะถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าวได้ จะมาอ้างที่หลังว่าไม่รู้กฎหมาย หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์คงไม่ได้ เพราะกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน