ตามล่า ‘ไอ้ไบเล่’ ตัวการปั่น สารวัตรแย้ ลูกน้องโดนตำรวจสอบอยู่ ยังส่งยาบ้ามาให้!
วันที่ 26 มิ.ย. พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวถึงกรณี สารวัตรแย้ ว่า ภายหลังจากที่ชุดสืบสวน สภ.สตึก ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค6 ได้ร่วมกันจับกุมนายอนุศักดิ์ มิ่งเมือง ได้ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยาเสพติดไว้ได้จำนวนหนึ่ง ก็ได้นำตัวนายอนุศักดิ์ มาสอบปากคำ
ปรากฏว่านายอนุศักดิ์ระบุว่า ได้รับคำสั่งจาก นายไบเล่ ให้ส่งยาให้ตามรายชื่อ โดยการติดต่อกันผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ไม่ว่าจะส่งข้อความ และพูดคุย เพื่อให้การตรวจสอบจากการสื่อสารได้ยากขึ้น ซึ่งคาดว่านายอนุศักดิ์ จะเป็นผู้ค้ารายย่อย ที่เป็นเอเย่นให้กับนายไบเล่ โดยนายอนุศักดิ์ รู้จักกับนายไบไล่จากเฟสบุ๊ก ที่มีการประกาศหาคนร่วมเป็นขบวนการค้ายาเสพติด
ขณะนี้ทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 อยู่ระหว่างตรวจสอบว่านายไบเล่คือใครกันแน่ ขณะเดียวกันระหว่างที่ทำการสอบปากคำนายอนุศักดิ์อยู่นั้น ก็ได้มีบริษัทเคอรี่ติดต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายอนุศักดิ์รับพัสดุมา และเปิดดูปรากฏว่าเป็นยาบ้าอีกจำนวนมาก โดยนายอนุศักดิ์ ระบุว่าทุกครั้งที่นายไบเล่ส่งพัสดุมา ก็จะรับและส่งไปให้ลูกค้าตามรายชื่อที่นายไบเล่สั่ง
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือสารวัตรแย้ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด และยืนยันว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งจากผู้ไม่หวังดีนั้น จากการสอบถามนายอนุศักดิ์ ก็ระบุว่า กรณีส่งของให้ลูกค้ารายอื่นให้ใช้ลายมือเขียนชื่อที่อยู่ผู้รับได้ แต่ในกรณีของสารวัตรแย้ ได้สั่งให้ต้องพิมพ์เอาเท่านั้น ซึ่งเป็นที่ผิดสังเกต
ดังนั้นทางชุดสืบสวนก็จะต้องไปหาสาเหตุของเรื่องนี้อีกครั้ง และทุกครั้งที่ส่งของให้ลูกค้าจะมีการโทรศัพท์ไปทวงหนี้ และถ้าสารวัตรแย้รู้เรื่องก็จะบอกว่าได้รับของแล้ว หรือกำลังจะโอนเงินให้ แต่จากการสอบสวนเมื่อนายอนุศักดิ์โทรศัพท์ไปทวงหนี้กับสารวัตรแย้ และได้ยินสารวัตรแย้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอนุศักดิ์ก็รีบวางสายทันที เมื่อสารวัตรแย้โทรกับก็ปิดโทรศัพท์มือถือไปเลย
สันนิษฐานว่าสารวัตรแย้ น่าจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ซึ่งขณะนี้ตนเองได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค3 รวมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ดำเนินการสืบสวนหาตัวนายไบเล่แล้ว โดยเฉพาะการตรวจสอบดีเอ็นเอที่ปรากฏบนกล่องพัสดุ และพยานหลักฐานอื่นๆ ซึ่งขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นขบวนการใหญ่ที่อยู่ทางฝั่งภาคเหนือ
โดยมีการขยายเครือข่ายลงมาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายกลุ่ม โดยเฉพาะเครือขายค้ายา “มันทุกเม็ด” ซึ่งเคยจับผู้ต้องหาได้มาแล้วหลายราย ส่วนบริษัทขนส่งของ ซึ่งมีอยู่หลายเจ้า ทั้งบริษัทไปรษณีย์ไทย และบริษัทเคอรี่ ซึ่งมีสาขาอยู่จำนวนมาก ก็ต้องขอความร่วมมือในการคัดกรองพัสดุที่ลูกค้านำมาส่งด้วย เพราะเครือข่ายค้ายาเสพติดมักจะนิยมใช้บริการของบริษัทส่งของเหล่านี้
