จับแก๊งผิวสีค้ายาข้ามชาติ จ้างสาวไทยใจกล้า ยัดยาไอซ์ในจิ๊มิ ตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนส่งไปประเทศที่สาม เผยรับยามาจากคนไนจีเรีย ติดต่อผ่านวอทแอพ
ยัดยาไอซ์ในจิ๊มิ / เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 มิ.ย. ที่ สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 บช.ทท. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย 1.นายไมเคิล พิริ อายุ 39 ปี สัญชาติแซมเบีย 2.นายสตีฟ ชิดิ วาสคี อายุ 37 ปี สัญชาติไนจิเรีย พร้อมของกลางยาไอซ์แบบเกร็ด หนัก 533 กรัม โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนสุขุมวิท 77 ปากซอยอ่อนนุช 25 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
พล.ต.ท.ธีรพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทราบว่า จะมีชาวต่างชาติผิวดำ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยจะมีการส่งยาเสพติดบริเวณปากซอยอ่อนนุช 25 เจ้าหน้าที่จึงซุ่มรอเป้าหมายจนกระทั่งเวลา 02.00น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนายไมเคิล ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณตรงตามที่สายลับแจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและขอตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแล้วพันด้วยเทปกาวสีดำ เป็นลักษณะแท่งจำนวน 2 แท่ง ถูกซุกซ่อนอยู่ในกล่องน้ำผลไม้ที่นายไมเคิลถืออยู่ในมือ โดยแท่งที่ 1 มีน้ำหนัก 254 กรัม และแท่งที่ 2 น้ำหนัก 261 กรัม
ต่อมาเจ้าหน้าที่นายไมเคิลไปค้นห้องพักเลขที่ 2/18 B1 ห้อง 208 ย่านอ่อนนุช-พัฒนาการ แขวงและเขตประเวศ ซึ่งเป็นห้องพักของผู้ต้องหาจากการตรวจค้นพบยาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบซิปล็อค จำนวน 15 ถุง น้ำหนักถุงละ 1.2 กรัม รวม 18 กรัม ถูกซุกซ่อนอยู่บนเพดานภายในห้องน้ำ นอกจากนี้ ยังพบนายสตีฟอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว จากการตรวจสอบเอกสารเดินทางพบว่าไม่มีตราประทับผ่านช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คนมาสอบสวนเพิ่มเติม
จากการสอบสวนนายไมเคิล ให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเพื่อรอนำไปส่งให้กับหญิงไทยที่ตนว่าจ้างในราคา 60,000 บาท ต่อครั้ง ในการส่งยาเสพติดไปยังประเทศที่สาม ซึ่งการขนส่งจะนำยาเสพติดบรรจุเป็นลักษณะแท่งกลมและใช้ถุงยางอนามัยคลุมอีกชั้นหนึ่ง ก่อนจะใช้วาสลีนทา และสอดเข้าไปในช่องคลอดของหญิงไทยที่ถูกว่าจ้าง เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ส่วนยาเสพติดดังกล่าวตนได้รับมาจากนายโอซาก้า สัญชาติไนจีเรีย โดยติดต่อผ่านทางแอพพลิเคชั่นวอทแอพ
พล.ต.ท.ธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าทั้ง 2 คนเดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ปี 2557 โดยขอวีซ่านักท่องเที่ยว ก่อนจะขอวีซ่าเป็นครูสอนภาษา และหลังจากการนั้นก็ลักลอบอยู่ภายในประเทศโดยไม่ขออนุญาต โดยยาเสพติดดังกล่าวเป็นยาไอซ์ที่มีคุณภาพดี หากถูกส่งออกไปยังประเทศที่สามได้จะมีราคาสูงกว่าเดิมถึง 3 เท่า ซึ่งในครั้งนี้ราคาจะตกอยู่ที่แท่งละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนลักลอบขายยาเสพติดมานานกว่า 2 ปี จนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ดังกล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และ”อยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินที่กฎหมายกำหนด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. เพื่อสอบสวนขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
