สตม. แถลงจับหนีแบล็คลิสต์ – 15หนุ่มต่างด้าว ลอบทำงาน นวดสปาชาย
นวดสปาชาย / เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อม เจ้าหน้าสตม. รวมกันกันแถลงผลการจับกุมคดีสำคัญๆ
โดยคดีแรกจับกุมนายฉาง ยี่เฟย อายุ 32 ปี สัญชาติจีน ที่หนีหมายจับ จากเมืองจีนมา ในฐานความผิดลักลอบการเปิดบ่อนการพนันออนไลน์ ก่อนจะเข้ามาอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในภูเก็ต และถูกจับกุม
คดีที่2 จับกุมชายหนุ่มชาวต่างด้าวหน้าตาดี ที่ลับลอบเข้ามาทำงานเป็นหมอนวดสำหรับผู้ชาย จำนวน 15 คน โดยเป็นชาวเวียดนาม – ลาวและพม่า โดยที่ทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตในการทำงาน
คดีที่3 จับคนจีนมีประวัติติดแบล็คลิสต์ และเปลี่ยนชื่อกลับเข้ามาอีก พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่าสำหรับคดีนี้ ทางเรา ได้ทราบว่า นายโอภาส เหอ ซึ่งเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาความผิดต่อเจ้าพนักงาน และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร
อีกทั้งยังเป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 12 (6) และ(7) แห่งพ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ.2522 ถูกบันทึกข้อมูลในบัญชีบุคคลเฝ้าดูของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักรเมื่อปี 2559 (ปลอมบัตรประชาชน)
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ต่อมาพบว่านายโอภาสเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยชื่ออัน เหอ สัญชาติจีน และต่อมาได้ตรวจสอบภาพถ่ายการเดินทางของบุคคลต่างด้าวในระบบ PIBICS พบว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะตำหนิรูปพรรณคล้ายคนเดียวกัน จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่า นายอัน เหอ เป็นบุคคลเดียวกับนายโอภาส จึงได้พาตัวนายอันไปสแกนลายพิมพ์นิ้วมือ พบว่ามีประวัติเป็นผู้ต้องกัก ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจริง
นายอันให้การยอมรับว่า ตนเป็นบุคคลเดียวกันกับนายโอภาส เหอ เคยถูกดำเนินคดีในข้อโทษจำคุก 11 เดือน เมื่อพ้นโทษแล้ว จึงถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักร เมื่อกลับประเทศจีนจึงได้เปลี่ยนชื่อและทำหนังสือเดินทางใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และเดินทางกลับมาประเทศไทยหลายครั้ง จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตรวจสอบพบในครั้งนี้
คดีที่ 4 จับกุมนายเดวิด ชิโคร่า อายุ 38 ปี สัญชาติเช็ก มีหมายจับยุโรปออกโดยศาลแขวงกรุงปราก เขต 1 สาธารณรัฐเช็ก เลขที่ 9T82/2016 ลงวันที่ 18 มิ.ย.62 ในคดีลักทรัพย์โดยการบุกรุกเข้าไปในเคหสถาน โดย นายเดวิดได้ บุกรุกเข้าไปในร้านกิ๊ฟช็อปและขโมยสินค้าต่าง ๆ ไปรวมมูลค่า 3,390 โครูนาเช็ก (ประมาณ 5,200 บาท) นอกจากนี้ นายเดวิด เคยก่อคดีลักทรัพย์และศาลแขวงกรุงปรากเขต 2 ก่อนจะหนีเข้ามาเมืองไทย
คดีที่5 ได้จับกุมนายอาคี เพททรี โยเฮนเนส วาเทียเนียน อายุ 37 ปี สัญชาติฟินแลนด์ โดย นายอาคี ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 12 วันในข้อหามียาเสพติดในครอบครองและจำหน่ายสารฮอร์โมนต้องห้าม และมีหมายจับตำรวจสากลว่าเป็นที่ต้องการตัวโดยทางการฟินแลนด์
ทั้งนี้นายอาคี เป็นเทรนเนอร์เพาะกายในประเทศฟินแลนด์ได้ครอบครองยาเสพติด จำหน่ายสารฮอร์โมนและสารเร่งการเจริญเติบโตต้องห้ามให้กับลูกค้า และหลบหนีเข้ามาในเมืองไทย
