หนุ่มใหญ่ใช้ปืน .38 ยิงเมียที่เลิกกันมาเพียงแค่ 2 เดือน ดับคาห้องครัว ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองที่ขมับข้างขวาทะลุขมับข้างซ้ายตายหนีความผิด ภายหลังไปง้อขอคืนดีแต่ถูกเมียปฏิเสธและระแวงเมียไปมีคนอื่น

201609291601222-20090625144410

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ต.เอกพล นาพิมาย สาวัตรสอบสวน สภ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาว่า ตนได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมที่บ้านภูด่านกอย ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ

201609291601353-20090625144410-1

เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ 6 ม.6 ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย 1 รายและหญิง 1 ราย อยู่ภายในห้องครัวบ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา ทราบชื่อผู้ตายหลังคือ นายมีโค วงศ์เทพ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.9 ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา และนางพัชมี สีนานน อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านของดังกล่าว

สอบถามชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ ทราบว่าผู้ตายทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เดิมทีฝ่ายชายมีภรรยามาก่อนหน้าแล้ว แต่เลิกกับภรรยาเก่าเพื่อมาอยู่กินกับนางพัชมีผู้ตายได้ประมาณ 4-5 ปี แล้ว พักหลังมาทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เนื่องจากฝ่ายชายเกรงว่าฝ่ายหญิงจะปันใจให้กับชายอื่น จนกระทั่งฝ่ายหญิงทนไม่ไหว จึงหนีไปทำงานกับญาติที่กรุงเทพมหานคร ได้ประมาณ 2 เดือน และเดินทางกลับมาที่บ้านเมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะถูกยิงเสียชีวิต

พ.ต.ต.เอกพล นาพิมาย สารวัตรสอบสวน สภ.ปทุมราชวงศา เปิดแผยว่า ฝ่ายชายเมื่อทราบข่าวว่าภรรยากลับมาที่บ้านเมื่อช่วงหัวค่ำ ฝ่ายชายก็คงจะมาหาเพื่อปรับความเข้าใจ แต่ไม่สำเร็จ จึงได้เกิดบันดาลโทสะขึ้น และใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาจ่อยิงภรรยา ซึ่งกระสุนเข้าที่บริเวณหลังใบหูข้างซ้ายฝังใน จนเสียชีวิตคาที่ภายในห้องครัว ก่อนที่จะใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองที่ขมับข้างขวาทะลุขมับข้างซ้ายตายตาม เพื่อหนีความผิด

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบว่ามีทรัพย์สินภายในบ้านหายไป หรือมีร่องรอยการถูกรื้อค้นแต่อย่างใด มีเพียงศพทั้งคู่อยู่ภายในห้องครัวของบ้าน ส่วนศพภรรยาญาติพี่น้องที่มาเห็นเหตุการณ์นำมาบริเวณหน้าบ้าน เพื่อที่จะช่วยปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงนำศพมาที่โรงพยาบาลปทุมราชวงศา เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบให้กับญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ซึ่งญาติเองก็ไม่ได้ติดใจในสาเหตุอื่นแต่อย่างใด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน