ยิงผิดตัว! กระสุนฝังหัว ‘น้องอาย’ ต้องนั่งวีลแชร์ กลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต สาวโร่ร้องกองปราบปราม 7 ปีแล้ว คดีไม่คืบหน้า คนร้ายยังลอยนวล

ยิงผิดตัว / เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่กองปราบปราม นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พา น.ส.นิภาพร คงมีสุข หรือ น้องอาย อายุ 23 ปี ชาว อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พิชานน ปลิ่มสุด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิง น.ส.นิภาพรจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะกลายเป็นคนพิการ ต้องนั่งรถวีลแชร์ไปตลอด เหตุเกิดภายในชุมชนหลังโรงเรียนวัดทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2555 แต่จนถึงขณะนี้ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ยังไม่สามารถตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ทั้งๆ ที่เวลาผ่านมากว่า 7 ปีแล้ว

น.ส.นิภาพร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มทะเลาะวิวาทกันภายในชุมชนหลังโรงเรียนวัดทุ่งครุ แล้วแยกย้ายกันไป หลังจากนั้นตนพร้อมกับแฟนหนุ่มและเพื่อนๆรวม 4 คน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาหาพี่ที่รู้จักในชุมชนดังกล่าว ระหว่างที่นั่งรออยู่นั้นมีกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ขี่จักรยานยนต์มากัน 3 คัน ก่อนจะใช้ปืนลูกซองสั้นยิงใส่กลุ่มตน 1 นัด เป็นเหตุให้แฟนหนุ่มและเพื่อนแฟน ถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บ

ส่วนตนถูกยิงเข้าที่ศีรษะ แขน และสะโพก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเจริญกรุง เป็นเวลาหลายเดือน หลังจากนั้นก็กลายเป็นผู้พิการ ต้องนั่งรถวีลแชร์และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ต่อมาทราบมาว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการยิงผิดตัว เพราะกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้าใจผิด คิดว่าตนเป็นแฟนสาวของคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เนื่องจากแต่งกายคล้ายกัน

“เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หนูต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต กระสุนฝังอยู่ในศีรษะ หมอบอกว่าถ้าผ่าออกจะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตหรืออาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ หลังเกิดเหตุหนูและญาติติดตามสอบถามความคืบหน้าคดีกับตำรวจสน.ทุ่งครุมาตลอด แต่กลับได้รับคำตอบให้รอไปก่อน และเหมือนว่าตำรวจจะไม่เรียกตัวผู้ต้องสงสัยรายใดมาสอบสวน ตอนนี้หนูลำบากมาก ต้องมาเป็นภาระของครอบครัว จึงอยากให้กองปราบปรามช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีด้วย” น.ส.นิภาพร กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ด้านนายรัชพล กล่าวว่า เวลาผ่านไปกว่า 7 ปีแล้ว คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ผู้ก่อเหตุเป็นคนที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ ซึ่งน.ส.นิภาพร เคยให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้ว แต่ก็ไม่มีการสืบสวนติดตามแต่อย่างใด เพราะหากตำรวจทำคดีอย่างจริงจัง ก็เชื่อว่าจะจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้ เนื่องจากไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรมากมาย ตนจึงพาผู้เสียหายเข้ามาร้องที่กองปราบฯ เพื่อช่วยติดตามคดีนี้ เพราะเวลาผ่านมา 7 ปีแล้ว คนร้ายที่ก่อเหตุก็ยังลอยนวล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน