จับแฮกเกอร์ ผัว-เมีย ล้วงข้อมูลลูกค้าเว็ปขายของ ตะลึงเหยื่อนับหมื่นราย
จับแฮกเกอร์ / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.
พร้อมด้วยพ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.วัชพัลภ์ แก้วแสนชัย รอง ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.รัฐพงศ์ แก้วยอด รอง ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.1 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่กก.1 บก.ปอท.
ร่วมแถลงผลการจับกุมนายจักรพงศ์ กระแจะจันทร์ หรือเก่ง อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 720/2562 ลงวันที่ 22 พ.ค. 2562 และน.ส.ปนัดดา จิตรากร หรือติสท์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 721/2562 ลงวันที่ 22 พ.ค. 2562 สองผัวเมียแฮกเกอร์
พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง แท็บเล็ต 2 เครื่อง แฟลชไดร์ฟ 2 อัน บัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างๆ 4 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ภายหลังสามารถจับกุมตัวได้ภายในบ้านเลขที่ 51/1360 ม.2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.ภานุภัทร เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาใช้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์แฮกข้อมูลเข้าไปในเว็บไซต์สาธารณะ หรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่มีระบบป้องกันการแฮกไม่ได้มาตราฐาน อีกทั้งยังหลงเหลือข้อมูลต่างๆของลูกค้าที่สมัครสมาชิก
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เมื่อได้ข้อมูลของผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเจาะข้อมูลเข้าอีเมล์ของลูกค้า ก่อนเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินในบัญชีธนาคารผ่านระบบออนไลน์ จากนั้นจะนำไปเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ หรือบัตรเติมเงิน ก่อนนำไปขายต่อและโอนเงินออกมาเข้าบัญชีของตนเอง
เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายจักรพงศ์ รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้านี้เคยศึกษาคณะเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในระดับชั้นปวช.ของสถาบันแห่งหนึ่งในกทม. แต่ศึกษาได้เพียงแค่ 2 ปี ก่อนใช้ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ในโลกสังคมออนไลน์ที่ถนัด ทำการแฮกเว็บไซต์สาธารณะนานกว่า 2 ปี จนมีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 1 ล้านบาท
นอกจากนี้จากการตรวจสอบฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหา พบบัตรประชาชนที่ถูกแฮกมาจากเว็บไซต์สาธารณะกว่า 10,000 ราย ส่วนน.ส.ปนัดดา มีหน้าที่ช่วยเหลือคอยเบิก – ถอนเงินในบัญชีธนาคารจนกระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
