แฉ! ไฮโซ อายุน้อยร้อยล้าน คนดัง ตุ๋นเงิน10ล้าน อ้างชื่อ ‘อดีตนางงาม’ หลอกลงทุน
วันที่ 11 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม น.ส.นัทชาพัฒน์ หิรัญวรสถิต อายุ 48 ปี ชาว จ. จันทบุรี และผู้เสียหายกว่า 10 ราย เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.หญิง ดวงมณี พานนาค สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับหนุ่มเจ้าของธุรกิจที่มีฉายาในวการ อายุน้อยร้อยล้าน หลังหลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ แต่กลับไม่ได้สินค้า หรือผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ จนเกิดความเสียหายเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท
น.ส.นัทชาพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รู้จักชายคนดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ขายของทุกอย่างในราคาไม่ถึง 30 บาท
ประกอบกับได้นำชื่อของชายคนนี้ไปสืบค้นในอินเตอร์เน็ต พบว่าเคยไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังหลายรายการเกี่ยวกับธุรกิจ สตาร์ทอัพ และรายการมีพิธีกรชื่อดังระดับประเทศ จึงเชื่อถือและร่วมลงทุนไป 4.3 แสนบาท เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ก่อนกำหนดนัดหมายส่งของช่วงวันที่ 28-30 มิ.ย.
กระทั่งต้นเดือนที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการส่งของตามกำหนด เมื่อสอบถามไปยังชายคนนี้อ้างว่าเกิดปัญหาในการจัดส่งพัสดุจากโกดังต่างประเทศ จึงล่าช้า แต่ยืนยันว่าไม่โกงแน่นอน พวกตนพยายามทวงถามเรื่อยมาแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง จนไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้อีก เมื่อไปคอมเมนต์ถามหน้าเพจก็ถูกลบข้อความ
ต่อมาพบว่ามีผู้หลงเชื่อแบบเดียวกันกว่า 10 ราย จึงรวมตัวเข้าแจ้งความ โดยมีเอกสารหลักฐานการโอนเงิน สัญญาที่ทำและบทสนทนาผ่านข้อความมาเป็นหลักฐาน
อดีตนางงามยังโดน
ขณะที่น.ส.เมลิสา หรือ เชอรี่ มหาพล อายุ 36 ปี อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2549 อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย โดยทราบข่าวจากการมีกลุ่มลูกค้าโทรศัพท์ติดต่อมาว่าโอนเงินให้แล้ว ทำไมยังไม่ส่งสินค้า ตนจึงสอบถามว่าโอนเงินให้ใคร ทางลูกค้าแจ้งว่าโอนเงินให้ชายคนนี้ที่อ้างว่าตนเป็นหุ้นส่วน
ตนจึงพยายามอธิบายว่า ชายคนนี้ไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกับตน เป็นแค่ลูกค้าที่สั่งซื้อของกับตนเท่านั้น อีกอย่างชื่อเล่นแฟนตนเหมือนกับชื่อเล่นชายคนนี้ อาจทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดได้ง่าย นอกจากนี้ยังสมอ้างเป็นญาติทำธุรกิจร่วมกัน รวมทั้งใช้ชื่อตนไปเปิดแบรนด์สินค้าอื่นๆอีก ทำให้เริ่มสงสัย เนื่องจากในระยะเวลาที่ผ่านมามีลูกค้าโทรศัพท์ติดต่อมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้จำนวนมาก
ทั้งนี้ ส่วนตัวรู้จักชายคนดังกล่าวมาประมาณ 1 ปีกว่า โดยเริ่มติดต่อมาหาแฟนของตนผ่านเฟซบุ๊กและสั่งของกันตลอด ระหว่างติดต่อธุรกิจร่วมกันก็มีปัญหาเรื่องชำระเงินอยู่บ้าง แต่ตนก็ยังขายของให้ปกติ เพราะคิดว่าเป็นลูกค้าอาจจะมีชำระเงินบ้างไม่ชำระเงินบ้าง ส่วนสินค้าที่เอาไปนั้น ราคารวมทั้งสิ้น 1,800,000 บาท และผัดผ่อนชำระมากว่า 1 ปีแล้ว
พูดตามตรงว่าตนก็ต้องการเงินต้นคืน ขณะเดียวกันได้พูดคุยกับผู้เสียหายอื่นๆ ก็ถูกหลอก โดยจะมีพฤติการณ์คล้ายกัน และบางรายโอนเงินให้ประมาณ 100,000-1,000,000 บาท อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทของตนได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ตนอยากอธิบายให้ลูกค้าหรือบุคคลที่ถูกหลอกลวงเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตนไม่รู้ว่ามีการใช้เล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้กับลูกค้ารายอื่นอีกหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าชายที่ก่อเหตุเป็นคนเก่งและมีหัวคิดดี แต่ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรถึงกระทำเช่นนี้
