ทีมทนาย มธ. ชี้ขั้นตอนสืบทรัพย์ แพรวา ยึดขายทอดตลาด ชี้ลดไปมากถึง 60%!!

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 ก.ค. ที่ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ นายวีระศักดิ์ ทัพขวา หัวหน้าทีมทนาย พร้อมทนายความคดีแพรวา 9 ศพ แถลงถึงขั้นตอนการดำเนินการหลังจากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดเพราะต้องรอดูว่าทางฝ่ายจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือไม่ คือได้ชำระค่าเสียหายตามที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือเปล่า ถ้าครบกำหนดระยะเวลาตามที่ศาลออกคำบังคับแล้วจำเลยยังเพิกเฉย เป็นเรื่องของทางโจทก์ต้องดำเนินการบังคับคดีต่อไป

ขั้นตอนในการบังคับคดีก็มีหลายอย่าง จะต้องไปยื่นคำขอต่อศาลเพื่อให้ศาลออกหมายบังคับคดี เมื่อศาลออกหมายบังคับคดีแล้วจึงส่งไปยังสำนักบังคับคดี จากนั้นจึงต้องติดตามสืบทรัพย์สินของฝ่ายจำเลยว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เพื่อจะยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด นำเงินมาชำระตามคำพิพากษา ภายในกำหนดอายุความ 10 ปี

ในฐานะทนายความทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วยเหลือฝ่ายผู้เสียหายให้ได้รับการชดใช้เยียวยาเพื่อรักษาประโยชน์ของลูกความ และที่สำคัญเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแกผู้ได้รับความเสียหาย โดยไม่ได้มุ่งไปที่ตัวเงินเป็นหลัก แต่ว่ามุ่งการชดใช้เยียวยา บรรเทาความเจ็บปวดความทุกข์ทรมานของผู้เสียหายได้ตามสมควร แต่ว่าสิ่งที่จำเลยเสนอมาก็เห็นว่าไม่ได้เสนอมาด้วยความจริงใจสักเท่าไหร่ ถึงเป็นเหตุให้กระบวนการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผลสักเท่าไหร่

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยปกติการเจรจาไกล่เกลี่ยตราบใดที่คดียังไม่สิ้นสุดก็สามารถเจรจากันได้ แต่หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา ทางฝ่ายโจทก์ก็ยื่นฎีกาและฝ่ายจำเลยก็ยื่นฎีกา แต่ก่อนจะมีการส่งสำนวนฎีกาขึ้นไปยังศาล ฝ่ายทนายจำเลยได้ติดต่อขอเจรจาไกล่เกลี่ย แต่เมื่อมีการเจรจาไกล่เกลี่ยก็ไม่สามารถเจรจากันได้

เนื่องจากทางฝ่ายโจทก์ไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ที่ลดค่าสินไหมน้อยลงเหลือ 4 ใน 5 ของที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงมีความประสงค์จะยื่นฎีกาขอให้ศาลฎีกาทบทวนกำหนดค่าสินไหมตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด

และที่สำคัญส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ เนื่องจากทนายจำเลยได้เสนอตัวเลขค่าสินไหมต่ำกว่าศาลอุทธรณ์กำหนดลงไปอีกประมาณถึง 60 % จากศาลอุทธรณ์กำหนด แล้วพอถึงเวลาจะจ่ายจริงๆทนายฝ่ายจำเลยก็ลดตัวเลขต่ำลงไปอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน