เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 มี.ค. ร.ต.อ.ชัยรน เรืองเพชร รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ดุสิต รับแจ้งเกิดเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงหญิงสาวเสียชีวิต บริเวณสนามหญ้าหน้าเสาธงภายในสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ถนนราชสีมา แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม. จึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลรามา ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ตำรวจฝ่ายสืบสวน และอาสามัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณสนามหญ้าด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) พบศพหญิงสาวสวมเสื้อยืดแขนยาว สีขาว สวมทับด้วยชุดเอี๊ยมกระโปรง สีดำ สภาพนอนหงายจมกองเลือดมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่แก้มซ้าย 1 นัด หน้าอก 1 นัด และหัวไหล่ 1 นัด บนพื้นมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 3 ปลอก ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วาสนา บุราคร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ซี 4 ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทะเบียนคลังของ (สกสค.) นอกจากนั้นจากการตรวจสอบรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีดำ ของผู้ตายที่จอดอยู่ใกล้กันพบว่ายางล้อหน้าซ้ายแบน
จากการสอบสวนนางทองเหรียญ แก้วจันทร์ อายุ 47 ปี น้าสาวของผู้ตาย ซึ่งขายข้าวแกงอยู่ด้านข้างสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่หลานสาวเดินมาที่รถยนต์ส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้านพัก แล้วพบว่ายางล้อรถด้านหน้าฝั่งซ้ายเกิดแบนจึงตามช่างให้ช่วยสับเปลี่ยนยาง ระหว่างนั้นนายจรัญ หรือขาว คูนา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/3 หมู่ 3 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำงานเป็นพนักงานขับรถอยู่ที่เดียวกับหลานสาว และเป็นอดีตแฟนได้เข้ามาพูดคุยง้อขอคืนดี
เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมาประมาณ 2-3 ปี แต่เมื่อช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา หลานสาวจับได้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้วจึงตัดสินใจขอแยกทาง แต่นายจรัญไม่ยอมเลิกพยายามตามง้อขอคืนดีมาโดยตลอดถึงขั้นเคยนำอาวุธปืนมาข่มขู่ จนกระทั่งวันนี้ตนคาดว่าฝ่ายชายน่าจะเป็นผู้เจาะยางรถของหลานเพื่อถ่วงเวลา แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้จึงชักอาวุธปืนที่เตรียมยิง 3 นัดซ้อน หลังจากนั้นวิ่งขึ้นรถยนต์เบนซ์ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ด้านนายวีระไทย ม่วงมี อายุ 41 ปีอาชีพช่างไฟฟ้าของคุรุสภาและเป็นเพื่อนของนายจรัญ เปิดเผยว่าตนพอจะทราบข้อมูลของทั้งสองฝ่ายโดยทั้งคู่นั้นต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวแล้ว แต่สามีฝ่ายหญิงได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ จากนั้นทั้งคู่ได้ตกลงคบหาดูใจกัน โดยฝ่ายชายเคยให้ทรัพย์สินแก่ฝ่ายหญิงไปจำนวนหนึ่งเพื่อเอาใจแต่เมื่อฝ่ายหญิงรู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้วจึงตีตัวออกห่างแล้วไปคบกับผู้ชายคนใหม่ถึงขั้นจะแต่งงานกันจนเป็นเหตุให้เพื่อนเกิดอาการหึงหวง อีกทั้งพยายามขอคืนทรัพย์สินและตามง้อขอคืนดีแต่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งนายจรัญเคยบอกว่าจะซื้ออาวุธปืนมายิงฝ่ายหญิงหากง้อไม่สำเร็จ จากนั้นจะยิงตัวเองตายตาม
ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่าคดีนี้ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัว ส่วนสาเหตุนั้นเกิดมาจากปัญหาส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย โดยทั้งคู่ทำงานอยู่ในสถานที่เดียวกัน ทั้งนี้อยากให้คนร้ายติดต่อเข้ามามอบตัวหากไม่ยินยอมจะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณภาพ คลิป จากมูลนิธิร่วมกตัญญู
