แม่ร้อง ลูกสาวม.1 ถูกรุ่นพี่ม.3 ลวงขืนใจ คาห้องน้ำในโรงเรียน สังคมสลด! ครูสาวให้กินยาคุมฉุกเฉินจนต้องเข้าโรงพยาบาล เผยลูกเหม่อลอย-ทำร้ายตัวเอง

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง ได้พา น้องบี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณห้องน้ำภายในโรงเรียน เพื่อประกอบเป็นหลักฐานการทำสำนวนส่งดำเนินคดีกับนักเรียนชาย อายุ 16 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนเดียวกัน ที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา น้องบี ภายในห้องน้ำของโรงเรียนดังกล่าว

ก่อนถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ที่ขณะนี้ได้ถูกส่งตัวฟ้องศาลตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว แต่เนื่องจากคดีนี้มีข้อสังเกตและสิ่งผิดปกติบางประการ จนทำให้ผู้ปกครองของน้องบีต้องนำเอกสารหลักฐานร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ด้วยเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

จากการสอบถามแม่ของน้องบี อายุ 30 ปี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ลูกสาว อายุ 13 ปี ถูกเด็กหนุ่มรุ่นพี่ อายุ 16 ปี ล่อลวงไปข่มขืนในห้องน้ำ ตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ตนมาทราบเรื่องเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา หรือผ่านไปเกือบ 1 เดือนแล้ว เนื่องจากสังเกตเห็นอาการผิดปกติของลูกสาวต่อเนื่องมานาน คือ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหม่อลอย มึนงง และทำร้ายตัวเอง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา แม่ได้เค้นถามลูกสาวจึงทราบว่า ถูกนักเรียนรุ่นพี่ลวงไปข่มขืนในห้องน้ำโรงเรียน มิหนำซ้ำครูในโรงเรียนก็รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แถมครูผู้หญิงยังเป็นคนนำยาคุมฉุกเฉินให้ลูกสาวกิน 2 เม็ด จนเด็กสาวมีอาการปวดท้องและเลือดออกทางช่องคลอดมาตลอดตั้งแต่กินยาคุมฉุกเฉินนั้น” แม่ผู้เสียหาย กล่าว

แม่ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ตนจึงนำหลักฐานแผงเม็ดยาที่ครูให้มา 2 เม็ด ซึ่งเด็กกินไป 1 เม็ด ไปแจ้งความตำรวจ สภ.โนนสูง ให้ดำเนินคดีกับรุ่นพี่ ม.3 พร้อมนำยาไปตรวจกับเภสัชกร ยืนยันว่า เป็นยาคุมฉุกเฉินจริง จึงพาลูกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการข้างเคียงอีก 4 ครั้ง และไม่ให้ลูกไปโรงเรียนอีกเลย ซึ่งภายหลังจากมีการแจ้งความแล้ว ผู้ปกครองนักเรียนรุ่นพี่ ม.3 และ ผอ.โรงเรียนฯ ได้เสนอเงินช่วยเหลือ 40,000 บาท เพื่อให้จบเรื่องกันไป แต่ตนไม่ยินยอม

แม่ กล่าวอีกว่า และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหนังสือลงวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา จากทางโรงเรียนแจ้งมาถึงผู้ปกครอง ให้รีบนำลูกกลับไปเรียนตามปกติ เพราะขาดเรียนติดต่อกัน 6 วันแล้ว ถ้าฝ่าฝืนไม่ยอมให้เด็กไปโรงเรียนและไม่มีเหตุอันควร จะต้องเสียเงินค่าปรับ 10,000 บาท ตนจึงจึงนำเรื่องร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาฯ

“กระทั่ง ตำรวจเร่งรัดดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราและครอบครัว ต้องการให้ครูและผอ.ผู้บริหารโรงเรียนได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบที่เห็นพฤติการณ์ของเด็กและทราบเรื่อง แต่กลับไม่รีบป้องกันหรือแจ้งผู้ปกครองให้ทราบโดยเร็ว จนปล่อยให้เด็กถูกล่วงละเมิด จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานต้นสังกัด ได้เข้ามาสอบสวนพฤติกรรมของ ผอ.และครูที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหลานของคนอื่นอีก” แม่ผู้เสียหาย กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน