เมื่อ 29 มี.ค. บีบีซีรายงานข่าวดีด้านอนุรักษ์สัตว์ป่าในประเทศไทย ว่า องค์การต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่า ฟรีแลนด์ และกลุ่มอนุรักษ์เสือ แพนเธรา พบประชากรเสือโคร่งอินโดจีน (Indochina tiger) ชนิดเสี่ยงสูญพันธุ์ขั้นวิกฤต ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อกล้องดักถ่ายภาพ บันทึกภาพลูกเสือชนิดนี้ได้อย่างน้อย 6 ตัว
เสือโคร่งอินโดจีนตกอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธ์สูงมาก เนื่องจากถูกล่าและเสียพื้นที่อยู่อาศัยจากการเติบโตของเมือง ทำให้ประชากรเหลือไม่ถึง 250 ตัว แต่การสำรวจของทางกลุ่มที่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ไทย พบสมาชิกใหม่ของเสือชนิดนี้
www.panthera.org
จอห์น กู๊ดริช ผู้อำนวยการของกลุ่มแพนเธรา กล่าวว่า การที่เสือชนิดนี้ในไทยหวนกลับมาเพิ่มประชากรได้นั้นถือว่าใกล้เคียงกับปาฏิหาริย์
DNP/FREELAND
ส่วนนายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า การลาดตระเวนเพื่อขัดขวางการล่าสัตว์ และการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่อุทยาน มีส่วนสำคัญต่อการอนุรักษ์ประชากรเสือ เพราะช่วยรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมให้มันสืบพันธุ์ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงต้องระแวดระวัง และเดินหน้าทำงานต่อไป เพราะพรานที่ติดอาวุธนั้นยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญอยู่
สำหรับประชากรเสือที่อยู่ในป่านั้น ในศตวรรษก่อนยังมีถึง 1 แสนตัว แต่ทุกวันนี้เหลืออยู่เพียง 3,900 ตัวแล้ว ในส่วนของไทย มีการตัดไม้ทำลายป่าไปมาก จนช่วงทศวรรษ 1980 ถึงมีกฎหมายสั่งห้ามตัดป่า และให้จัดพื้นที่อุทยานเพื่อคุ้มครองพื้นที่ป่าขึ้น
เสือในประเทศไทยนั้นลดลงอย่างฮวบฮาบจนเกือบจะสูญพันธุ์ในช่วงต้นของยุค 2000 ส่วนเพื่อนบ้าน ก็ตัดป่าอย่างมโหฬารเช่นกัน จนเชื่อว่าเสือโคร่งอินโดจีนนั้นสูญพันธุ์ไปแล้วในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม จะเหลือก็เพียงพื้นที่ฝั่งตะวันออกของพม่า ส่วนตะวันตกของพม่ายังมีเสือเบงกองเหลืออยู่บ้าง
ทุกวันนี้ จากการที่ไทยพยายามอนุรักษ์เสือโคร่งอินโดจีน จึงทำให้ไทยกลายเป็นฐานที่อยู่สุดท้ายของเสือชนิดนี้ในภูมิภาคนี้
