ใบปอ ไม่ตรงปก ถึงกรุง สารภาพหมดเปลือก ปมต้องหลอกโอนเงิน เพราะไม่มีเงินใช้และไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ใช้หมดเกลี้ยงแล้ว ตำรวจหิ้วตัวส่งดำเนินคดี
ใบปอ ไม่ตรงปก จากกรณี นนท์ โอนบ่อย เปิดเผยเรื่องราวหลังรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งในช่องทางไลน์ พูดคุยจนสนิทสนม คบหาดูใจกันตั้งแต่ต้นปี 2560 ตลอดเวลาที่คุยกัน ไม่เคยพบหน้า มีแต่ภาพหน้าตาของสาวสวยที่เห็น ตลอดระยะเวลาฝ่ายหญิงขอยืมเงิน เจ้าตัวก็โอนให้ทุกวัน จนกลายเป็นเงินถึง 2 ล้านบาท ก่อนตำรวจจะจับกุม น.ส.นิติวรรณ เรืองทิพวรรณ หรือใบปอ ผู้ก่อเหตุไว้ได้ แล้วนำตัวกลับ กทม. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ไม่รอดใบปอ ไม่ตรงปก จนมุมพร้อมผัวใหม่ หลังหอบผ้าผ่อนหนี
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ กก.3 บก.ทท.1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท., พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมลา ผบก.ทท., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.คธม.บช.ทท., พ.ต.อ.ชาญฤทธิ์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 และ พ.ต.อ.สุรชัช สุวรรณศรี ผกก.1 บก.ทท. ร่วมกันแถลงจับกุม น.ส.นิติวรรณ เรืองทิพวรรณ อายุ 32 ปี เจ้าของฉายา “ใบปอไม่ตรงปก” ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ. 431/2562ลงวันที่ 25 ก.ค.62 ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและฉ้อโกง”
พล.ต.ท.ธีรพล กล่าวว่า หลังจาก นายธรานนท์ ถิรายันติกุล หรือชื่อที่ถูกตั้งฉายาว่า “นนท์ โอนบ่อย” เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ “ใบปอ” ที่ใช้รูปคนอื่นมาสวมรอย แล้วหลอกให้โอนเงินเป็นเวลา 2 ปี รวมแล้วกว่า 2 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับ น.ส.นิติวรรณ
กระทั่งวันนี้ (26 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า น.ส.นิติวรรณ หลบหนีไปอยู่บ้านเลขที่ 347 หมู่ 6 ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านแม่สามีของ น.ส.นิติวรรณ จึงลงพื้นที่ติดตามตัว จนไปพบ น.ส.นิติวรรณ ยืนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม
พล.ต.ท.ธีรพล กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน น.ส.นิติวรรณ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า สาเหตุที่ทำเพราะไม่มีเงินใช้และไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จึงได้ใช้วิธีการดังกล่าว ส่วนเงินที่ได้มาก็นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนหมดแล้ว เพราะผู้เสียหายโอนเงินมาให้แต่ละครั้งเป็นจำนวนไม่มาก จึงได้ใช้ไปจนหมด หลังจากนั้นจึงนำตัว น.ส.นิติวรรณ ส่งพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
