ตำรวจ ทหาร ปกครองบุรีรัมย์ จับแก๊งค้ายาเสพติดอ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ได้ผู้ต้องหา 4 ราย มีแม่ยายเป็นเอเย่นต์ใหญ่ ว่าจ้างลูกเขย 5,000 บาท พร้อมเพื่อนบ้านอีก 2 คนรายละ 2,500 บาท ขนยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ถูกรวบยกทีมพร้อมของกลางยาบ้าร่วม 6,000 เม็ด
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) พร้อมกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 30 นาย วางแผนสกัดจับกุมเครือข่ายยาเสพติด จ.อุบลราชธานี ที่จะนำยาเสพติดมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย นายประคอง เกษียร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.9 ต.หนองนกทา อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี นางดวงตา เกษียร อายุ 49 ปี ภรรยานายประคอง นางพัชรีย์ หนูดี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.5 ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี และนายชาญณรงค์ พวงรักษา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.3 ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ลูกเขยนางพัชรีย์ พร้อมของกลางยาบ้า 3 มัด จำนวน 5,985 เม็ด รถกระบะอีก 2 คัน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ผค 654 อุบลราชธานี กับรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บย 9650 อุบลราชธานี และโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้ในการโทรติดต่อซื้อขายและนัดส่งมอบยาเสพติดกับลูกค้าใน จ.บุรีรัมย์
ทั้งนี้สืบเนื่องจากชุดจับกุมได้จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และสืบสวนขยายผลจนทราบว่ายาเสพติดดังกล่าว ติดต่อซื้อขายกับนักค้ายาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมีคนไทยเป็นผู้มาส่ง ชุดจับกุมจึงทำการติดต่อล่อซื้อยาเสพติดดังกล่าว พร้อมจัดกำลังดักซุ่มตามจุดต่างๆที่เป็นจุดต้องสงสัย คาดว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติด
กระทั่งพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ผค 654 อุบลราชธานี และรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บย 9650 อุบลราชธานี ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัยขับตามกันมา ขับออกจากเขตตัวเมืองบุรีรัมย์มุ่งหน้าเขต อ.บ้านด่าน เข้ามาจอดที่บริเวณคอสะพานก่อนถึงศูนย์จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จากนั้นมีชายที่นั่งโดยสารมาในรถกระบะ ทะเบียน ผค 654 อุบลราชธานี เดินลงไปที่บริเวณคอสะพาน ขณะเดียวกันรถกระบะ ทะเบียน บย 9650 อุบลราชธานี ขับวนไปมาบริเวณดังกล่าวหลายรอบ จากนั้นชายคนดังกล่าวที่เดินลงไปบริเวณใต้สะพาน ได้กลับขึ้นมาขึ้นรถยนต์ แล้วทั้ง 2 คัน ก็รีบขับมุ่งหน้าไปทาง อ.สตึก
จากนั้นชุดจับกุมที่ดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง จึงเข้าไปตรวจสอบบริเวณใต้สะพานดังกล่าว ก็พบยาบ้าจำนวน 1 ห่อใหญ่ มีจำนวน 3 มัด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกวางอยู่ใต้สะพาน จึงทำการเฝ้ายาเสพติดไว้ พร้อมประสานให้ชุดจับกุมที่ประจำจุดต่างๆ ติดตามไล่ล่าสกัดจับรถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถสกัดจับรถยนต์ทั้ง 2 คันได้ที่บริเวณสามแยกทางเข้าบ้านโนนขวาง ถนนสายบุรีรัมย์-สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมผู้ต้องหา 4 ราย ซึ่งจากการตรวจค้นภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมแต่อย่างใด พบเพียงโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการโทรศัพท์ติดต่อกับลูกค้าใน จ.บุรีรัมย์ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
โดยนายประคอง ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้นำไปวางไว้ให้กับลูกค้าจริง และรับสารภาพอีกว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของนางพัชรีย์ หนูดี ที่ว่าจ้างให้ตนกับภรรยา ซึ่งรู้จักกันเป็นการส่วนตัว กับนายชาญณรงค์ ลูกเขยของนางพัชรีย์ นำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยนางพัชรีย์จะนั่งมาด้วยเพื่อคอยสั่งการด้วยตนเอง โดยนางพัชรีย์สัญญาว่าจะให้ค่าจ้างตนกับภรรยา ได้รับค่าจ้างคนละ 2,500 บาท ส่วนลูกเขยนางพัชรีย์ได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท
โดยนำยาบ้าซุกซ่อนไว้ใต้เบาะรถด้านข้างคนขับที่ตนนั่งอยู่ มีนายชาญณรงค์เป็นคนขับรถ ทำทีเหมือนพ่อลูกนั่งรถกันมา ส่วนนางพัชรีย์กับนางดวงตา ภรรยาของตนขับรถอีกคัน โดยทำทีเหมือนชาวบ้านทั่วไปเช่นเดียวกัน เพื่อตบตาให้รอดพ้นจากการตรวจสอบและจับกุมของเจ้าหน้าที่ พอขับเข้ามาในเขตบุรีรัมย์นางพัชรีย์โทรศัพท์สั่งการให้ตนนำยาบ้าดังกล่าว ไปวางไว้ใต้สะพานทางออกจากตัวเมืองบุรีรัมย์มุ่งหน้าไปทาง อ.บ้านด่าน เมื่อมาถึงบริเวณสะพานดังกล่าวตนจึงนำยาบ้าไปวางไว้ ก่อนจะรีบขึ้นรถแล้วเพื่อมุ่งหน้ากลับ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี แต่มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับกุมได้เสียก่อน
พ.ต.ต.นิวัฒน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุม นักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีทั้งตำตรวจชุด ปส. ตชด. ทหาร ชุดการข่าวทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งได้บูรณาการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ทำการขยายผลติดต่อล่อซื้อและสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ดังกล่าว พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
