ผัวเมียปิกอัพ ลากศพข้ามจังหวัด ทีแรกนึกว่าทับหมา ต่อมานึกว่าโดนผีหลอก!

วันที่ 3 ส.ค. นายปรีชา (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี และนางพุทธา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี สามีภรรยาเจ้าของปิกอัพ ลากศพข้ามจังหวัด เดินทางพบ ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี โดยนำรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ ซึ่งเป็นรถที่ลากศพคุณตา สุกสวาท อายุ 85 ปี ชาว ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู จากบ้านโนนทัน จ.หนองบัวลำภู

มาไกลถึงตลาดเมืองทอง จ.อุดรธานีระยะกว่า 40 กม. บนถนนหลวงหมายเลข 210 สายอุดรธานี-หนองบัวลำภูมาให้กับเจ้าหน้าที่ตร.ตรวจสอบด้วย ซึ่งทางพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ รวบรวมหลักฐานและสรุปสำนวน ส่งต่อให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินการตามกฎหมาย

การเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองอุดรธานีครั้งนี้ นายปรีชาและนางพุทธา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าพวกตนเองไม่ได้ขับรถชนคุณตาทองจริงๆ แต่ยอมรับว่าได้ลากศพที่ติดใต้ท้องรถจริงแต่ตอนแรกไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นคนที่ติดอยู่ท้องรถ

โดยสองสามีภรรยา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุพากันขับรถไปรับซื้อผลไม้แก้วมังกร 1 ตัน ราคา 5 พันบาท จากชาวสวนที่ อ.ภูเรือ จ.เลย เพื่อมาเปิดกระบะรถขายภายในตลาดเมืองทองเจริญศรี ซึ่งขณะขับลงมาจากเทือกเขาภูพานน้อย มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี โดยใช้ความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากฝนตกและรถบรรทุกหนัก

เมื่อผ่านบริเวณหน้าบ้านผู้ตาย เหมือนกับล้อรถเหยียบอะไรบางอย่าง ทีแรกคิดว่าเหยียบสุนัขที่ถูกรถทับตายกลางถนน จึงไม่ได้สนใจอะไร ขับรถต่อมาจนมาถึงที่จอดรถภายในตลาด ตัวภรรยาได้เดินลงจากรถ และชี้บอกสามีว่าเหยียบสุนัขติดใต้ท้องรถมา และบอกให้ย้ายที่จอดใหม่ เพราะว่าบริเวณที่จอดตรงนั้นสกปรก จากนั้นภรรยาได้เดินไปเข้าห้องน้ำ และไปซื้อถุงพลาสติกเตรียมใส่ให้กับลูกค้าที่มาซื้อผลไม้

สองสามีภรรยา บอกต่อไปว่า เมื่อสามีเดินลงมาจากรถ ทีแรกคิดว่าเป็นสุนัขตามที่ภรรยาบอก แต่กลับเห็นเป็นเศษกล่องกระดาษ แต่เมื่อก้มลงดูชัด ๆ พบเป็นมือและเท้าของคนโผล่ออกมา ทำให้รู้สึกตกใจอย่างมากจนทำอะไรไม่ถูก คิดว่าโดนผีหลอกเข้าแล้ว

หลังจากนั้นได้ตั้งสติขึ้นไปขับรถพยายามถอยออกและเข้าหลายครั้ง จนศพหลุดออกมา จากนั้นจึงพากันขับรถบรรทุกผลไปขายตามตลาดนัดในพื้นที่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู รวม 2 วัน จนแก้วมังกรหมด ก่อนนำเรื่องไปปรึกษากับตำรวจที่ สภ.โนนสัง ที่แนะนำว่า เมื่อขายของหมดแล้วให้เข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกตนไม่ได้มีเจตนาไปในทางลบ หรือหลบหนีแต่อย่างใด

เพราะความจนต้องหาเช้ากินค่ำ ต้องขายผลไม้ให้หมด เพื่อเก็บไว้เป็นทุนจึงไม่ได้มาพบตร.ในวันเกิดเหตุทันที่ และวันนี้ได้มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานีแล้ว รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะไม่มีใครอยากจะขับรถลากศพเข้าไปในตลาด หากไม่เกิดกับตนเองไม่มีใครรู้หรอกว่า มันทุกข์ใจขนาดไหน

หลังจากโดนประณามการกระทำ และหลังจากนี้พวกตนจะเดินทางไปกราบขอขมาศพผู้ตายที่บ้าน ในสิ่งที่พวกตนไม่มีเจตนา เพื่อไม่ให้มีเวรกรรมต่อกัน จากนั้นจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำ 2 สามีภรรยาเสร็จ ก็จะได้สรุปสำนวนการสอบปากคำทั้งหมด ส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ดำเนินการต่อ โดยเบื้องต้นไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ใด เป็นการมาพบพนักงานสอบสวน ให้ปากคำแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวผู้ขับรถที่เกิดเหตุเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน