เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 มี.ค. ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อท.14 /58 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้องนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อายุ 70 ปี อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนางสาวจิตติโสภา ศิริวรรณ อายุ 43 ปี บุตรสาว ร่วมกันเป็นจำเลย หลังจาก เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาให้จำคุกนางจุฑามาศ 66 ปี แต่ให้จำคุกจริง 50 ปี ฐานเรียกรับสินบนจาก2 สามีภรรยาชาวอเมริกัน เจ้าของบริษัทได้ทำสัญญาจ้างและการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2546 ที่จัดขึ้น และจำคุกน.ส.จิตตโสภา 44 ปี ฐานเป็นผู้ สนับสนุนโดยเปิดบัญชีรับโอนเงิน และให้ริบทรัพย์กว่า 62 ล้านบาท
นายธนกร แหวกวารี ทนายความ จึงยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 1 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลอาญาคดีทุจริตฯเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองเป็นเรื่องร้ายแรง คดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี เห็นควรส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาสั่งประกัน จำเลยจึงถูกนำตัวส่งไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 60
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำจำเลยทั้งสองซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดมาฟังคำสั่งศาล ในชุดนักโทษสีน้ำตาลเข้ม และสวมหน้ากากอนามัย
โดยศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองถูกฟ้องในข้อหาร้ายแรง โดยศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 50 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 44 ปี หากจำเลยทั้งสอง ได้รับการปล่อยชั่วคราว อาจหลบหนีได้ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ให้ยกคำร้อง
ด้านนายธนกร แหวกวารี ทนายความ กล่าวว่า ในคดีนี้จำเลยยังยืนยันว่าจะขอสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งคดียังสามารถยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้อีก และจะต้องหาเหตุผลและหลักฐานใหม่มาให้ศาลพิจารณาเพื่อปล่อยชั่วคราว ซึ่งจากนี้จะนำเหตุผลของศาลที่ไม่ให้ประกันทั้ง 3 ข้อ ประกอบด้วย ข้อหาร้ายแรง, ถูกจำคุกในอัตราโทษสูง, และเกรงว่าจะหลบหนี กลับไปพิจารณา เพื่อหาเหตุผลและหลักฐานใหม่มาหักล้างก่อนยื่นขอให้ศาลพิจารณาใหม่อีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถระบุวันได้ โดยขณะนี้จำเลยทั้งสองที่ถูกคุมขังไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพแต่อย่างใด