ใจกล้ามากๆ พลเมืองดีรายนี้ นักศึกษาสาวราชภัฏเชียงใหม่ ปี 2 ตามไล่ล่าระกระบะชนแล้วหนี แม่ลูกบาดเจ็บ ลูกสาว 8 ขวบ สาหัสเลือดออกในสมอง ชาวบ้านชื่นชมนักศึกษาสาวเปิดใจไม่กลัวทำดี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวของสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “อาลิษา อาษาราษฎร์” ซึ่งได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขับรถจักรยานยนต์ตามรถกระบะคันหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าของคลิประบุว่า “ชนละหนี แยกน้ำแพร่” อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในคลิปดังกล่าวทราบว่า มีผู้หญิง 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ตามล่ารถกระบะสีบรอนซ์ หลังชนรถจักรยานยนต์ที่มีแม่และลูกขับมาตามเส้นทางได้รับบาดเจ็บ บริเวณแยกน้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ แล้วรถกระบะคันดังกล่าวก็ได้ขับหนี จึงทำให้หญิงสาวทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นพลเมืองดีเมื่อเห็นเหตุการณ์ก็รีบขับรถไล่ตามรถกระบะคันดังกล่าวพร้อมทั้งบีบแตรเรียกให้คนขับหยุดรถ ก่อนจะแจ้งให้ทราบว่าคนขับได้ก่อเหตุชนแล้วหนี โดยที่ยังมีป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ถูกชนติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวอีกด้วย แต่ทางคนขับรถกระบะคันดังกล่าวกลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องว่าได้ขับรถพุ่งชนแต่อย่างใด จนหญิงสาวทั้ง 2 คน ต้องขู่ว่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ยินยอมขับรถตามไปดูที่เกิดเหตุ
โดยภายหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็พบว่ามีคนในโลกโซเชียลที่ดูคลิปเหตุการณ์และต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ทั้งต่อว่าคนขับรถกระบะและชื่นชมความกล้าหาญของหญิงสาวทั้ง 2 คน ที่ช่วยติดตามคนขับแล้วหนีให้มารับผิดชอบ ขณะผู้สื่อข่าวทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้ทำการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ทราบรายละเอียดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 2 เม.ย. โดย พ.ต.ท.วิเชียร์ ชัยชมภู พนักงานสอบสวน สภ.หางดง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันที่บริเวณแยกน้ำแพร่ หมู่ 4 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน เป็นหญิง 1 ราย และ เด็กอีก 2 ราย โดย 1 ในนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัสทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล และจากการเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบพยานเป็นหญิงสาวทั้ง 2 คน ซึ่งได้เห็นเหตุการณ์และเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขับออกมาจากซอย ส่วนรถกระบะได้วิ่งมาทางตรง ก่อนจะพุ่งชนจนเป็นเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น ก็พบคู่กรณีซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันดังกล่าวอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงไม่ได้สอบถามว่าได้ขับรถชนแล้วหนีหรือไม่ และเบื้องต้นก็ยังไม่ได้ทำการสอบสวนทั้งสองฝ่าย โดยล่าสุดต้องรอให้ทางผู้ถูกชนทำการรักษาตัวให้อาการดีขึ้นก่อน แล้วหลังจากออกจากโรงพยาบาลจะได้เชิญทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งพยานมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินดคีกับผู้กระทำผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายตามกฎหมาย และเปิดเผยว่า จากการไปตรวจเยี่ยมและสอบถามอาการผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่า ด.ช.กิตติพันธ์ ศรีมงคล อายุ 2 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถลอกบริเวณเอว ส่วนนางสาวจิราพร พูนเพิ่มพล อายุ 44 ปี คนขับซึ่งเป็นแม่ของเด็กทั้งสอง ได้รับบาดเจ็บกำลังเอ็กซเรย์ และแอดมิตที่ รพ.หางดง อาการไม่น่าเป็นห่วง ส่วน ด.ญ.สุชัญญา ศรีมงคล อายุ 8 ปี รพ.หางดง ได้ทำการส่งต่อ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่เป็นการด่วน อาการสาหัส ทราบต่อมาว่าเลือดออกในสมอง ซี่โครงหัก มีลมในท้อง อยู่ในห้องไอซียู
ด้าน นางสาวอลิษา อาษราษฏร์ นักศึกษาราชภัฏเชียงใหม่ ปี 2 ซึ่งเป็นพลเมืองดี ไล่ติดตามผู้ที่ชนแล้วหนีและทำการถ่ายบันทึกภาพตอนไล่ติดตามรถกระบะดังกล่าวอย่างไม่เกรงกลัว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเห็นสภาพแม่ลูกถูกรถกระบะดังกล่าวชนแล้วหนี รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่คนขับรถกระบะมีพฤติกรรมแบบนี้ ไม่ยอมลงมาเหลียวแลเลย จึงได้ให้แฟนขับไล่ติดตามและตนก็ใช้มือถือถ่ายตลอดจนทันและตนได้ลงไปต่อว่าและเรียกร้องให้ ชายคนในรถให้ไปดูแลคนเจ็บและรับผิดชอบ ในที่สุดชายผู้ขับรถกระบะก็ได้ขับรถมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับตน วินาทีนั้นตนไม่กลัวอะไร นึกถึงแต่ความเป็นธรรมอยากให้มีการรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำ ดีใจและภูมิใจที่ได้ทำดีให้กับสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชายที่ขับรถกระบะคู่กรณีทราบชื่อต่อมาว่า นายธีระยุทธ ชัยวงค์ อายุ 41 ปี และได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการต่อไป
