ยอดปล้นทองนาทวี พุ่ง 2,400 บาท เกือบ 100 ล้าน วิเคราะห์พุ่งเป้าคดีความมั่นคง!

จากกรณีเหตุคนร้ายบุกปล้นอุกอาจร้านทอง “ห้างทองสุธาดา” ตั้งอยู่เลขที่ 178-180 กลางตลาดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา โดยคนร้านแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สวมชุดสีเขียวเข้มและสวมเสื้อเกราะจำนวน 5 คน ใช้รถตู้สีขาว ป้ายเหลืองทะเบียน 10-1082 สีขาว ปัตตานี มีแถบสีฟ้า-เหลือง ลักษณะคล้ายกับรถโดยสารประจำทาง ถืออาวุธปืนสงคราม บุกเข้าไปในร้าน กวาดทองรูปพรรณไปเกือบหมด และยังถอดสายกล้องวงจรปิดออกไป ขณะเกิดเหตุมีพนักงาน ซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ภายในร้าน 4-5 คน และคนร้ายใช้อาวุธปืนข่มขู่ไม่ให้ขัดขวาง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

อ่าน แฉ โจรปล้นทอง จี้รถตู้จากหนองจิก จับคนขับมัด

โดยพบว่า มูลค่าความเสียหายที่ คนร้ายกวาดทองคำไปเกือบเกลี้ยงร้านนั้น คิดเป็นจำนวนน้ำหนัก ถึง 2,400 บาท และเครื่องเพชรทองคำแท่งอีกบางส่วนรวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 85 ล้านบาท

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่สภ.นาทวี ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทั้งในจ.สงขลาและจ.ปัตตานี ได้ดูพื้นที่เกิดเหตุและลักษณะการก่อเหตุของคนร้ายให้น้ำหนักเชื่อมโยงว่าเกี่ยวกับคดีความมั่นคงถึง 80 เปอร์เซ็น ส่วนอีก20 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ถึงจะฟันธงและสรุปได้

พล.ต.ท.รณณศิลป์ กล่าวว่า เหตุผลที่ให้น้ำหนักเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพราะดูจากพฤติกรรมในการก่อเหตุของคนร้าย เมื่อมองย้อนหลังกลับไป เหมือนกับคดีปล้นเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ใน อ.นาทวี เมื่อวันที่16 สิงหาคม 2560 คือ มีการปล้นรถมาก่อน แล้วนำมาใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายที่ลงมือปล้นร้านทองจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและคำให้การของพยานมีอย่างน้อย 17-20 คน

มีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นอย่างดี ทั้งคนที่ทำหน้าที่ปล้นรถ ส่วนหนึ่งก็คุมคนขับรถเอาไว้ กลุ่มหนึ่งก็เอารถมาส่งให้กับทีมปล้นร้านทอง โดยในส่วนของทีมปล้นน่าจะมี 12 คน บางคนแต่งกายเป็นผู้หญิงแฟงตัวเป็นลูกค้ามาเคาะประตูร้านทองเพื่อให้เปิดประตูเพราะต้องเปิดสวิทจากด้านในและดันประตูเอาไว้ จากนั้นคนร้ายที่ถืออาวุธปืนสงครามก็บุกเข้าไปในร้าน

โดยพบว่าในคดีนี้นอกจากรถตู้ที่ปล้นมาแล้ว ยังมีรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้จำนวน3 คัน เป็นรถรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กค 1828 ปัตตานี ซึ่งถูกขโมยมาเช่นกันนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณเดียวกับที่ทิ้งรถตู้ ซึ่งอาจจะขับมารับคนร้ายแต่รถเกิดเสียจึงทิ้งเอาไว้ ส่วนอีก2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 1 กค 1827 ปัตตานี และรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ขทอ 640 ปัตตานี ที่คนร้ายจี้เอาไปจากใต้ถุนบ้านเลขที่ 13/1 หมู่11 ต.นาทวี อ.นาทวี ซึ่งยังไม่พบรถทั้งสองคันแต่ได้แจ้งเตือนให้เป็นรถอันตรายแล้ว

ผบช.ภาค9 ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของรายละเอียดอื่นของคดีทั้งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะมีคนในร่วมด้วยหรือไม่หรืออดีตลูกจ้าง เพราะคนร้ายรู้ทุกอย่างภายในร้านเป็นอย่างดีและลงมืออย่างง่ายดาย ในเรื่องนี้ก็ต้องสอบสวนเช่นกันโดยเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยมาสอบสวนทุกคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน