นักแสดงหนุ่มเลว2018 แจ้งจับ แท็กซี่มาเฟีย หน้าRCA ไม่กดมิเตอร์ ชักมีดจี้คอ
แท็กซี่มาเฟีย / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ที่ สน.มักกะสัน นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พานายอนุสรณ์ สุขแจ่ม อายุ 32 ปี นักแสดงหลักของภาพยนตร์เรื่องเลว2018
ซึ่งจะเข้าฉายปลายปีนี้ เข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับทางพ.ต.ต.ธนภัทร กังรวมบุตร สว.(สอบสวน) สน.มักกะสัน
กรณีถูกโชเฟอร์แท็กซี่ทำร้ายร่างกายหลังเรียกรถแล้วไม่ยอมกดมิเตอร์ จนมีปากเสียงก่อนถูกมีดจี้คอทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดหน้าทางเข้าอาร์ซีเอ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เมื่อช่วงตี1 ของวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายอนุสรณ์กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนไปดื่มกินกับเพื่อนที่อาร์ซีเอ ในช่วงเวลาตี 1 ขณะกำลังจะกลับ ตนได้อาสาเพื่อนมาเรียกแท็กซี่จากหน้าทางเข้าอาร์ซีเอ โดยตนนั้นจะกลับบ้านย่านท่าพระ
เมื่อเรียกรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทห3601 กรุงเทพฯ เมื่อบอกที่หมาย ทางโชเฟอร์กลับขอให้เหมามิเตอร์ ไม่ยอมกดมิเตอร์คิดราคาตามจริง แต่ตนยืนยันให้กดมิเตอร์ เพราะเป็นคนไทยไม่ใช่ชาวต่างชาติ
แต่โชเฟอร์แท็กซี่ยืนกรานว่าต้องเหมามิเตอร์ ไม่อย่างนั้นก็ให้ไปเรียกรถคันอื่น ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ตอนนั้นตนเห็นว่าโชเฟอร์พูดจาไม่ดีแล้ว จึงเรียกให้น้องมาถ่ายคลิปบันทึกเหตุการณ์ แต่แท็กซี่คนดังกล่าวไม่ยอมให้ถ่าย โดยได้ปัดมือถือ แล้วพูดจาว่า มีปัญญากิน ไม่มีปัญญาเหมารถกลับ ตนเลยเริ่มมีอารมณ์โมโห จึงมีปากเสียงกัน
ทางโชเฟอร์เลยโทร.เรียกเพื่อนแท็กซี่คันอื่นมา ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามเดินหนีเพื่อไปเรียกรถแท็กซี่คันอื่น แต่เพื่อนแท็กซี่ที่ตนมีปากเสียงด้วยได้เดินมาหา พร้อมเอามีดพับจี้คอตน แล้วอีกมือก็กำมีดปอกผลไม้เตรียมจะจ้วงแทงท้อง เพื่อนๆของตนที่เห็นเหตุการณ์ จึงรีบมาดึงตนออกไป พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ จนมีแท็กซี่พลเมืองดีรับตนพากลับบ้านให้
ในช่วงเช้าตนจึงมาแจ้งความไว้แล้ว ที่สน. ต่อมาได้ปรึกษาทนายจึงมาแจ้งความเพิ่มเอาผิด 2โชเฟอร์แท็กซี่หัวร้อน ในข้อหา“พยายามฆ่า”ด้วย
ขณะที่นายเกรียงศักดิ์กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้น ตนได้ให้คำปรึกษาผู้เสียหาย และมีข้อมูลว่าจุดเกิดเหตุมีมาเฟียแท็กซี่ ที่มีพฤติกรรมชอบเหมามิเตอร์ โดยไม่ยอมกดมิเตอร์ตามราคาจริง มีการข่มขู่แท็กซี่ขาจรที่มารับผู้โดยสาร มีการกันที่จอดหน้าอาร์ซีเอ
เรื่องนี้รัฐบาลควรมาจัดการปราบปรามภัยสังคม ตรวจสอบว่ามีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ อีกทั้งแท็กซี่เหล่านี้ยังพกมีดพกอาวุธได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างเรื่องนี้อย่างเฉียบขาด
เบื้องต้นทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมตามที่ได้นัดหมายไว้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบผู้กระทำผิด2คนแล้ว เตรียมนำตัวมาให้ผู้เสียหายชี้ยืนยัน ส่วนจะแจ้งข้อหาใดบ้างนั้น จะต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทั้งเรื่องการพยายามฆ่า การปฎิเสธกดมิเตอร์รถ ซึ่งจะต้องรวบรวมข้อมูลแล้วจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
