เมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 8 เมย 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าทีตำรวจ สภ.แม่ริมเชียงใหม่ได้ทำการแถลงข่าวผลการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสารมารถจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีลักรถจักรยานต์ในเขตท้องที่ สภ.แม่ริมเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเยาวชนอยู่เลย จำนวนมากถึง 30 คัน โดยไม่สนใจหรือเกรงกลัวกฏหมายแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม โดยชุดสืบสวน สภ.แมริมเชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์่จำนวน 8 คัน และอะไล่รถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง และที่เหลืออีก 22 คันได้ส่งคืนให้กับเจ้าของไปแล้ว ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ชื่อ นาย เอ และอีกคนชื่อ นายบี อายุ 17 ปี
ต่อมา พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รอง ผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาร่วมกันแถลงข่าวในคดีนี้ที่ สภ.แม่ริม โดย พล.ต.ต.พิทยา เปิดเผยว่า ทางประชาชนในเขตท้องที่ สภ.แม่ริมเชียงใหม่ได้มาแจ้งความร้องทุกข์เรื่องรถจักรยานยต์หายไปหลายราย ทางตนได้สั่งการให้ทางตำรวจเชียงใหม่ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้มาให้จงได้ ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ และเป็นช่วงระหว่างระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในแต่ละท้องที่ด้วย
กระทั้่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม ได้ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ตามโครงการของตำรวจ (โปลิสอายส์) และก็พบเห็นคนร้ายก่อเหตุในแต่ละแห่งต่างกรรมต่างวาระ จึงได้สืบสวนจนรู้ตัวคนร้าย และได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ หมายจับที่ จ.201/2560 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ หมายจับเลขที่ 202/2560 นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้งสองเป็นเยาวชน เคยอาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า และได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่เดือน ม.ค .60 แล้ว โดยไปพักอาศัยอยู่ที่หอพักไม่มีชื่อ ย่านถ.โชตนา ต.ช้างเผือก เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปจับกุมทั้งสองได้ และของกลางดังกล่าว
จากการสอบถามขยายผลและตรวจสอบประวัติของทั้งสองคน พบว่า ทั้งสองคนเป็นเด็กบ้านเด็กชายเชียงใหม่ (บ้านเด็กกำพร้า) หลังออกจากบ้านเด็กชาย ได้ตระเวนลักรถจักรยานยนต์ไปถึง 30 คัน โดยมีพฤติกรรมตระเวนลักรถจักรยานยนต์ที่เจ้าของจอดไว้ตามหน้าบ้าน เมื่อลักได้แล้วจะนำไปขับขี่เล่นหากน้ำมันหมดก็จะจอดทิ้งไว้ หรือหากเจอด่านตำรวจก็จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ยึดและนำใบสั่งไปฉีกทิ้ง และตระเวนลักคันใหม่ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้นำไปขายหรือจำนำ
สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การว่าหลังออกจากบ้านเด็กกำพร้าก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยกระทำการผิดกฏหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ว่าผิดกฏมาย เพราะไม่ได้เอาไปขาย ส่วนวิธีที่ใช้ในการลักรถจักรยานยนต์ คือใช้กุญแจผี หากล็อคคอจะใช้เท้าถีบต่อตรง โดยทั้งคู่ได้บอกว่าเคยเรียนช่างยนต์ที่โรงเรียนสารพัดช่างมาก่อน ทำไปเพราะความคึกคะนองเพื่อนำไปขับขี่เที่ยวเล่นเท่านั้น
