อดีตพริตตี้สายเอ็น เปิดใจไม่ควรมีใครถูกละเมิด-เสนอรัฐดูแล หยุดโยนผิดให้ผู้หญิง

อดีตพริตตี้สายเอ็น / เครือข่ายงดเหล้า ร่วมไว้อาลัย ลันลาเบล อดีตพริตตี้สายเอ็น รับเป็นอาชีพเสี่ยงถูกคุกคามทางเพศ วอนทุกอาชีพมีศักดิ์ศรี ไม่ควรถูกล่วงละเมิด

ด้านองค์กรผู้หญิง ชี้อย่ามองเป็นความผิดผู้หญิง ที่พาตัวเองไปเสี่ยง แต่งตัวไปทำอาชีพแบบนี้ ย้ำไม่ควรมีใครถูกละเมิด ด้าน สคอ.รับจัดแข่งดื่มในบ้านเอาผิดไม่ได้

อดีตพริตตี้สายเอ็น

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ โรงแรมแมนดาริน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิธีรนารถ กาญจนอักษร มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลและเครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงทางสังคม

จัดเวทีเสวนา “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับพฤติกรรมดื่มหนักดื่มเร็วและการคุกคามทางเพศ” โดยถอดบทเรียนจากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลันลาเบล พริตตี้สาว โดยภายในงานมีกิจกรรมตัวแทนเครือข่ายเยาวชนและผู้เข้าร่วม ช่วยกันพับนกกระดาษ อ่านบทกวี และยืนสงบนิ่งเป็นการให้เกียรติและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต

น.ส.เอ (นามสมมติ) อดีตสาวเชียร์เบียร์ที่คลุกคลีกับวงการพริตตี้สายเอ็น กล่าวว่า จากที่เข้าไปสัมผัสโดยตรงและคนรอบข้าง พบว่า วงการนี้มีความเสี่ยงและผลประโยชน์อย่างมาก เป็นอาชีพที่ทำเงินได้ง่าย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกลวนลามคุกคามทางเพศ

อดีตพริตตี้สายเอ็น

แม้ปัจจุบันตัวเองจะห่างจากอาชีพนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่พอทราบจากน้องๆเด็กเอ็นว่า เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงที่จะโดน แน่นอนมีบางคนยินยอมพร้อมใจไปจบกันบนเตียง แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดจะเป็นอย่างนั้น ไม่อยากให้สังคมมองคนทำอาชีพนี้แบบเหมารวม

พวกเขาก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน น้องๆเหล่านี้ไม่ควรมีใครถูกล่วงละเมิด ถูกมอมเหล้า มอมยา เพื่อบังคับข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนตัวเชื่อว่ามีจำนวนมากที่ถูกล่วงละเมิด ไปจนถึงถูกข่มขืน แต่ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาบอกความจริง และนึกไม่ออกว่าใครจะช่วยได้ จึงทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดภาวะย่ามใจและกระทำซ้ำกับคนอื่นๆอีก กลายเป็นวงจรที่ไม่จบสิ้น

“บางคนมีวิธีการเอาตัวรอดในการรับงานเช่น ไม่ดื่มเหล้าแก้วคนอื่น มือไม่ห่างแก้วเหล้าตัวเอง มีการประมาณตัวเองว่าดื่มได้แค่ไหน ซึ่งแต่ละคนจะมีเทคนิคการดื่มที่ไม่เหมือนกัน เพราะพริตตี้สายเอ็นต้องดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว แต่แม้จะมีการดื่มหนักทุกวันพวกเขาจะมีการออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง กินอาหารเสริม ดีท็อกตับ

จะมีใครบ้างที่รู้ว่ามีน้องๆ จำนวนมากที่ต้องทำเพื่อหาเงินเลี้ยงดูแลพ่อแม่ ดูแลครอบครัว ส่งน้องเรียน หรือแม้แต่ส่งตัวเองเรียน ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่ในวงการนี้กันนาน เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็ต้องมีงานอื่นทำ มีครอบครัว ที่พูดไม่ได้สนับสนุนให้ใครเข้ามาเดินทางสายนี้ เพราะถึงที่สุดแล้วที่เราคิดว่าเอาตัวรอดได้ เวลาอยู่ในสถานการณ์คับขันมันยากมากที่จะรอดได้” นางสาวเอ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง ผอ.มูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร กล่าวว่า สังคมไทยยังมีมายาคติเกี่ยวกับการดื่มที่แตกต่างกันระหว่างเพศ เช่น เมื่อผู้ชายเมาทำร้ายร่างกายภรรยา คนในสังคมจะมองว่าเพราะเขาเมาเลยทำให้ขาดสติ แต่ในทางกลับกันอย่างคดีของลันลาเบล สังคมจะมองว่าก็ทำอาชีพแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้แล้วใครก็สามารถล่วงละเมิดทางเพศได้ หรืออาจจะมองไปว่าเป็นความผิดของผู้หญิงที่พาตัวเองไปในที่แบบนั้น

ซึ่งความคิดเหล่านี้มันเป็นความคิดในเชิงอำนาจที่ถูกสะสมมาเป็นเวลานาน ผู้ชายสามารถดื่มเหล้าได้เวลาทำผิดจะมีข้ออ้างที่ไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็นผู้หญิงดื่มจนเมาจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดี การถูกละเมิดทางเพศก็เป็นเพราะตัวเองทั้งสิ้น แม้แต่กฎหมายเองยังไม่ให้ความยุติธรรมกับผู้หญิงเมื่อเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง

เราต้องลุกขึ้นมาว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องลบมายาคติของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกันระหว่างหญิงและชาย ดังนั้น ผู้บริหารหรือผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองจะต้องเข้ามาจัดการ ออกกฎหมายคุ้มครองทุกอาชีพ เพื่อให้ผู้หญิงที่มีอาชีพต่างๆ เช่น พริตตี้ได้มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต

ผู้ประกอบอาชีพอย่างพริตตี้ควรจะมีพื้นที่และเครือข่ายเพื่อสร้างอำนาจในการต่อรอง เหมือนกับสหภาพแรงงานต่างๆ และในส่วนของครอบครัว ควรสั่งสอนลูกหลานที่เป็นผู้ชายว่าคุณไม่มีสิทธิที่จะไปทำร้ายร่างกายใคร หรือล่วงละเมิดใคร การให้เกียรติเคารพในเนื้อตัวร่างกายคนอื่นเป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญของมนุษย์

นพ.ธีรยุทธ รุ่งนิรันดร ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเสี่ยงต่อการเกิดแอลกอฮอล์เป็นพิษ หากดื่มเกินปริมาณส่งผลต่อประสาท การเคลื่อนไหว เสี่ยงต่อการหยุดหายใจ

หากพบเห็นใครที่มีอาการเหล่านี้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ช่วยเหลือเบื้องต้นได้โดยการจัดท่านอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก รักษาระดับศีรษะและคอให้เท่าๆกัน ค่อยๆพลิกตัวให้นอนหงาย เรียกชื่อดังๆ ให้ลืมตากว้าง ลองจิ้มที่ตัวเพื่อดูปฏิกิริยาตอบสนอง

มองที่อกหรือท้องเพื่อดูจังหวะการหายใจ หายใจช้าลงหรือติดขัด ร่างกายไม่ตอบสนองให้ทำซีพีอาร์ แล้วเรียกรถพยาบาลหรือนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งการใช้แอลกอฮอล์ร่วมกับสารเสพติด จะส่งผลให้เกิดอาการเมาหมดสติและเสียชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเฉพาะสารเสพติดในกลุ่มยานอนหลับ

ขณะที่นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า รูปแบบการดื่มในปัจจุบันค่อนข้างเปลี่ยนไปมาก หากเป็นลักษณะจัดแข่งขันดื่มกันเองที่บ้าน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ไม่สามารถเอาผิดได้ แต่หากเป็นการดื่มในร้าน มีการเชียร์ให้ดื่ม แข่งดื่ม จัดโปรโมชั่น ส่งเสริมการขาย อันนี้ ผิดมาตรา 30 และ มาตรา 32 แน่นอน ส่วนกรณีนี้มีโทษทางอาญาร่วมด้วย เพราะทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

“ตัวกฎหมายเน้นเอาผิดการขาย มากกว่าเอาผิดการดื่ม เบื้องต้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทวงสาธารณะสุขเป็นประธาน เพื่อเสนอให้มีการปรับเพิ่มอนุบัญญัติให้สอดรับกับสถานการณ์การดื่มที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้อยากฝากเตือนว่า การแข่งกันดื่มสุรา บังคับดื่ม ดื่มหนักดื่มให้หมดในเวลารวดเร็ว มันไม่คุ้มที่จะเอาชีวิตมาเสี่ยง”นพ.พงศ์ธร กล่าว

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน