นักศึกษาชาวไทยในสหรัฐ โผล่ไล่ นายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์” กลางวงเสวนา เจ้าหน้าที่เชิญออกหวุดหวิด ระหว่างปาฐกถาภูมิใจ รัฐบาลหลังรัฐประหาร ออกกฎหมายกว่า 400 ฉบับ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ (หรือช่วงเช้ามืดของวันนีี้ประเทศไทย) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมขึ้นเวทีกับเอเชียสมาคมในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ระหว่างภารกิจร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ครั้งที่ 74
รายงานระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นปาฐกถาแสดงความภูมิใจ ว่าในรัฐบาลหลังการยึดอำนาจ เพื่อความสงบเรียบร้อยนั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ออกกฎหมายกว่า 400 ฉบับ ซึ่งมากกว่าสมัยรัฐบาลที่ผ่าน เกือบทุกรัฐบาล
ระหว่างนั้นเอง นัชชชา กองอุดม อดีตนักศึกษา และนักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งมีชื่อเสียงจากการเฉพาะการชู 3 นิ้ว ก่อนการฉายหนัง เดอะฮังเกอร์ เกมส์ ภาคสุดท้าย กลางห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขึ้นชูป้ายประท้วงพร้อมกับชูหน้ากาก “ยุทธนอคคิโอ” ก่อนถูกหน่วยกำลังอารักขา รักษาความปลอดภัย “เชิญตัว” ออกไปออกจากห้องเสวนา
โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดในจังหวะนั้นว่า “Hello Thank You” “Thank You”. “Thank You Very Much” (สวัสดีครับ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ)
- ขอบคุณคลิปจาก Bow Nuttaa Mahattana
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อหลังกจากเกิดเหตุดังกล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ดีที่สุดในโลกและเป็นที่ยอมรับในสากล แต่ขอให้เข้าใจประเทศไทย หากได้รับความร่วมมือสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ความขัดแย้งก็จะลดลง ไม่มีการประท้วงเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้อง
พร้อมบอกว่าคนที่มาประท้วงไม่รู้ว่ามาจากชาติไหนเช่นเดียวกับคนที่มาประท้วงหน้าโรงแรมที่พัก 20 กว่าคน ซึ่งไม่มีคนไทยสักคนแต่ตนไม่ได้สนใจคนเหล่านี้ เพราะมีงานที่สำคัญกว่ามากกว่าที่จะไปทะเลาะกับคนเหล่านี้ทำให้เสียเวลา หลายคนบอกว่าประเทศไทยมีความขัดแย้งสูง ไทยจะเป็นเสือตัวที่เท่าไหร่ต้นไม่สนแต่จะเป็นเสือทั้ง 10 ตัวเดินหน้าไปด้วยกันในอาเซียน ซึ่งผู้นำประเทศทุกคนสัญญากับตนจะเป็นเสือ 10 ตัวเดินไปข้างหน้โดยไม่ทะเลาะกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาทางการเมืองในไทยก็ว่ากันไปแต่ต้องไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และในฐานะที่เป็นรัฐบาลจนเข้าสู่ปีที่ 6 เจอปัญหามาแล้วทุกรูปแบบ แต่พร้อมรับฟังทุกปัญหาโดยนำกลไกต่างๆมาปรับแก้ตามสถานการณ์ไม่ใช่ใช้วิธีทางทหารอย่างเดียว เพราะการเป็นทหารคือการทำงานด้วยความเสียสละ อดทนอดกลั้น ทำงานด้วยความจริงใจ เพราะทหารมีวินัย
การทำงานต้องสำเร็จถ้าไม่สำเร็จอย่าไปทำ เพราะทหารสั่งคนไปรบสั่งคนไปตาย ถ้ายึดที่หมายไม่ได้ก็ตายไปเลยนั่นคือทหาร ซึ่งตนทำสำเร็จทุกครั้งจึงได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้ หากทำไม่ได้ไม่เก่งก็ตายไปเลย นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจตนตลอดมา ไม่เคยคิดถึงประโยชน์ของตนเอง แม้ครอบครัวเป็นห่วงก็ต้องยอมเพราะสละตนให้ประเทศชาติไปแล้ว ยืนยัน 5 ปีที่ผ่านมาตนทำหน้าที่บทบาทเชิงรุก ทุกครั้งที่มีการประชุมต้องได้ข้อยุติไม่ใช่ประชุมแล้วพูดลอยๆ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งและเป็นที่ยอมรับโดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกๆที่ออกแถลงการณ์ยอมรับผลการเลือกตั้งของไทย ใครจะว่าตนไม่เป็นประชาธิปไตย หลายประเทศก็เป็นลักษณะนี้ ส่วนปัญหาขัดแย้งภายในเป็นเรื่องภายในประเทศที่จะต้องแก้ไขซึ่งทุกประเทศย่อมมีปัญหาแต่ขออย่าไปฟังสิ่งที่บิดเบือนในโซเชียลมีเดีย
วันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมใครมีคำสั่งศาลถือว่าไม่ใช่คนดี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ถามผู้บริหารเอเชียโซไซตี้ว่าสนับสนุนคนเหล่านี้หรือไม่ซึ่งบางเรื่องไม่ใช่คดีการเมืองแต่เป็นคดีอาญา ยืนยันตนไม่เคยทำผิดกฏหมายแม้ว่าจะเข้ามาลักษณะนี้ และไม่ได้อยากเข้ามา แต่เพราะไทยมีปัญหาไม่อยากให้เกิดสงครามการเมืองต้องจึงต้องเข้ามายุติปัญหา
