กองปราบบุกรวบ 18มงกุฎตัวพ่อ “แก๊งควาย” ตระเวน ตุ๋นเล่นกำถั่ว นานกว่า 20 ปี แฉกลโกงทำเหยื่อสูญเงิน เผยถ่ายทอดวิชาโจรจนมีลูกศิษย์นับร้อย

วันที่ 2 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายพังพะกาญจน์ กาญจนศักดินากุล อายุ 74 ปี ชาวจ.ภูเก็ต ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่268/2558 ลงวันที่ 26 พ.ค.2562 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า นายพังพะกาญจน์เป็นหนึ่งในสมาชิกระดับแกนนำของแก๊งมิจฉาชีพ หรือที่เรียกว่า “แก๊งควาย” ซึ่งเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ตระเวณหลอกเหยื่อให้ร่วมเล่นพนันกำถั่ว โดยมิจฉาชีพกลุ่มดังกล่าว จะมีสมาชิกกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ส่วนใหญ่มักจะก่อเหตุทางภาคใต้ ภายในกลุ่มจะแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ

กองปราบบุกจับ18มงกุฎตัวพ่อ ตุ๋นเล่นกำถั่ว คาบ้านพักที่ภูเก็ต

กองปราบบุกจับ18มงกุฎตัวพ่อ ตุ๋นเล่นกำถั่ว คาบ้านพักที่ภูเก็ต

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวต่อว่า โดยเริ่มแรกก็จะให้ผู้ที่รับหน้าที่เป็นหน้าม้า ตระเวนหาเหยื่อ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุมีฐานะร่ำรวย จากนั้นก็เข้าตีสนิทแล้วก็ชักชวนร่วมหุ้นทำธุรกิจต่าง ๆ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อไว้วางใจ ก็จะชักชวนให้ร่วมเล่นพนันกำถั่ว โดยมีผู้ร่วมขบวนการที่เหลือเปิดโรงแรมรอไว้แล้ว

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวต่อว่า ส่วนวิธีการหลอกเหยื่อก็คือใน 4-5 เกมแรก ผู้รับหน้าที่เป็นเจ้ามือ ก็จะแกล้งยอมให้เหยื่อเป็นฝ่ายชนะได้เงินไปก่อน เมื่อเหยื่อตายใจและอยากเล่นต่อ ในเกมต่อ ๆ มา กลุ่มคนร้ายก็จะเริ่มโกง โดยให้หน้าม้าผู้ร่วมขบวนการ ทำตัวเป็นลูกค้ามาเล่นพนันด้วย ระหว่างนี้ก็ชักชวนเหยื่อพูดคุย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เจ้ามือก็จะแอบหยิบเม็ดถั่วออก จนเหยื่อแทงผิดและเสียเงิน

เจ้าหน้าที่คุมตัว นายพังพะกาญจน์ กาญจนศักดินากุล มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่คุมตัว นายพังพะกาญจน์ กาญจนศักดินากุล มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

“เมื่อเริ่มเสียพนัน เหยื่อก็จะยิ่งอยากได้เงินคืนมากขึ้น สุดท้ายก็กลับกลายเป็นติดหนี้กลุ่มคนร้าย ต้องเสียเงินทองเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับนำโฉนดที่ดินของตนไปจำนอง เพื่อนำเงินมาคืนให้กับคนร้ายกลุ่มนี้ เมื่อได้เงินเหยื่อมาจนพอใจแล้ว คนร้ายก็จะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน โดยผู้ทำหน้าที่หาเหยื่อมา จะได้รับส่วนแบ่งมากที่สุด” พ.ต.อ.อรุณ กล่าว

จากการสอบสวน นายพังพะกาญจน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนก่อเหตุดังกล่าวมานานกว่า 20 ปี จึงมีความช่ำชองจนรับการขนานนามว่าเป็น “บิดาแห่งแก๊งควาย” ทุกครั้งที่ผ่านมา ตนมักทำหน้าที่เป็นหน้าม้า จะรับบทเป็นเสี่ยใหญ่ หรือนายทุนที่มาร่วมเล่นพนันกับเหยื่อด้วย ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียหายที่เคยถูกตนหลอกมาแล้วเป็นจำนวนมาก

สอบปากคำผู้ต้องหาตัวพ่อของ แก๊งควาย

สอบปากคำผู้ต้องหาตัวพ่อของ แก๊งควาย

นายพังพะกาญจน์ กล่าวต่อว่า กระทั่งช่วงหลังเมื่ออายุมากขึ้น สภาพร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเก่า จึงได้ผันตัวมาเป็นอาจารย์ คอยสอนและถ่ายทอดวิชากลโกงให้กับสมาชิกใหม่แทน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่กดดันกวาดล้างอย่างหนัก จึงต้องหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

“ที่ผ่านมา ผมเคยสอนวิชาแบบนี้ให้สมาชิกใหม่ หากเปรียบเป็นลูกศิษย์ก็มีมากกว่า 100 คน กลโกงแบบนี้จึงไม่หายสาบสูญไปง่าย ๆ และเป็นเรื่องราวที่ไม่รู้จบ ตราบใดที่คนยังมีความโลภ แก๊งมิจฉาชีพรูปแบบนี้ก็จะไปปรากฏที่นั่น” นายพังพะกาญจน์ กล่าว

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกว่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งสภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน