ไล่ล่าระทึก! แก๊งค้ายา ขับหนีตร. จวนตัวโดดลงแม่น้ำ ลอยคอ 2 ชม.ก่อนจนมุม ยึดทั้งไอซ์ ยาเค เผยเป็นแค่นกต่อ ของเครือข่ายรายใหญ่ มีคนประสานโทรบอกว่าจะส่งจุดไหน ก่อนมีคนมารับอีกทอด

แก๊งค้ายา / เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผบช.น. พล.ต.ต.พีรพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.น. พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.สภ.บางปลาม้า พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส. ฝ่ายสืบสวนกก.ดส.และฝ่ายสืบสวน สภ.บางปลาม้า

แถลงจับกุม นายกิติพงษ์ หรือ โม ขจัดภัย อายุ 30 ปี ชาว อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง ยาไอซ์หนัก 132 กิโลกรัม ยาเค (คีตามีน) 5 กิโลกรัม รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ผธ4316 ชลบุรี ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 คีตามีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

โดยจับกุมได้ที่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ถนน 340 ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เวลาประมาณ 02.45 น. ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการจับกุมเครือยาเสพติดเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญก่อนหน้านี้ กก.ดส.ได้สืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนสืบทราบว่ายังมีเครือข่ายยาเสพติดอีกเครือข่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นเครือข่ายที่มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ โดยเครือข่ายนี้จะจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในย่านวุฒากาศ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร และถนนกาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงสืบสวน สะกดรอยติดตามมาโดยตลอด

จนพบว่าพฤติการณ์ของเครือข่ายนี้จะมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง ผู้เป็นเจ้าของยาเสพติดเป็นคนสั่งการให้นายบอลและผู้ต้องหา ไปรับยาเสพติดที่บริเวณย่านบางบัวทอง เพื่อนำไปส่งต่อให้กับเครือข่ายยาเสพติดตามคำสั่งของของนายทุน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบ และประชุมวางแผนเพื่อเข้าจับกุม

ต่อมาวันที่ 7 ต.ค. เวลาประมาณ 23.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.พบรถรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ผธ4316 ชลบุรี รถที่เครือข่ายนี้ใช้รับส่งยาเสพติดบริเวณถนนกาญจนาภิเษก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. จึงสะกดรอยติดตาม เพื่อจับกุม

จนไปถึงถนน 340 พื้นที่สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเข้าสกัดรถ คันดังกล่าวแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดรถ ขับหลบหนีต่อไปบนถนน 340 จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ฝั่งขาเข้า ผู้ต้องหาได้จอดรถกลางสะพานข้ามแม่น้ำ แล้วกระโดดสะพานลงแม่น้ำท่าจีน เพื่อหลบหนีการจับกุม

เจ้าหน้าที่ปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวไว้ จากนั้นประสานขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า มาร่วมปิดล้อมตรวจค้น ชุดสืบสวนจึงร่วมกันค้นหาตัวผู้ต้องหาจนพบตัว หลบอยู่ที่บริเวณกองผักตบชวาตอม่อใต้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นรถกระบะ คันที่ผู้ต้องหาขับมา ผลการตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) บรรจุอยู่ในห่อพลาสติก (ห่อใบชา) สีเขียว จำนวน 132 ห่อ น้ำหนักชั่งรวมภาชนะบรรจุหนักห่อละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักยาไอซ์ทั้งหมดประมาณ 132 กิโลกรัม และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 คีตามีน บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกใบชาสีเขียวจำนวน 5 ห่อ น้ำหนักชั่งรวมภาชนะบรรจุหนักห่อละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักคีตามีนทั้งหมด หนักประมาณ 5 กิโลกรัม

ด้านพ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำมาแล้ว 6 ครั้ง ได้เงินครั้งละ 30,000-40,000 บาท แต่ครั้งที่ 6 ครั้งล่าสุดได้เงิน 50,000 บาท ก่อนมาถูกจับกุมดังกล่าว โดยไม่เคยมีประวัติก่อเหตุมาก่อนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม นายกิติพงษ์ หรือโม น่าจะเป็นแค่นกต่อ โดยจะมีคนประสานโทรบอกว่าจะส่งที่ไหน จะมีคนมารับต่ออีกทอดหนึ่ง ระหว่างขับรถไล่ตามนายกิติพงษ์ หรือ โม ผู้ต้องหาวิ่งออกจากรถกระโดดลงจากสะพานลงน้ำหนีใช้เวลาหาประมาณ 2 ชั่วโมง จนผู้ต้องหาทนไม่ไหว ก็ขึ้นมา แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน