เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เดชา ชวยบุญชม ที่ปรึกษา (สบ.10) ลงนามคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ที่17/2560 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราการศปก.ตร. ให้ข้าราชการตำรวจ 12 นาย ในสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(บก.สปพ.) หรือ 191 และกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตั้งแต่ตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการ (รองผบก.) ถึงผู้บังคับหมู่(ผบ.หมู่) ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ตำรวจทั้ง 12 นายประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอางค์ รองผบก.สปพ. 2.พ.ต.ท.รวีโรจน์ เปล่งศรียศภัทร รองผกก.สายตรวจ สปพ. 3.ร.ต.ท.ถวิน พัฒนกุลอนันต์ รองสว.งานสายตรวจ 2กก.สายตรวจ 4.ร.ต.ท.จารึก โทนอ่อน รองงสารวัตรงานสายตรวจ 2กก.สายตรวจ 5.ด.ต.ณทัศพงณ์ กะปุระ 6.ด.ต.วสันต์ กรุพิมาย 7.ด.ต.ชนก คชเสนีย์ 8.ด.ต.ภัทรายุทธ์ ศรีสุวรรณ ผบ.หมู่งานสายตรวจ กก.สายตรวจ 9.ส.ต.ต.วัชระ กงศร ผบ.หมู่งานสายตรวจและอารักขา กก.สุนัขและม้าตำรวจ 10. ส.ต.ต.ภาสชัย พงศ์พัฒนหยก 11.ส.ต.ต.จักรพงษ์ อภิวงศ์ และ 12.ส.ต.ต.สุรัตน์ นาเจิมพลอย ผบ.หมู่กองร้อย 1กก.ควบคุมฝูงชน 1 บก.อารักขาและควบคุมฝูงชน

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) มีคำสั่งบก.สปพ. ที่141/2560 ลงวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ในที่ประชุมสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ มีการกล่าวถึงข้าราชการตำรวจ สังกัดสปพ. เรียกรับผู้ประกอบการจากการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ จึงตั้งให้ พ.ต.อ.ชยเดช บรรจงรักษ์ รองผบก.สปพ. เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการ กระทำผิดวินัยหรือไม่ แล้วเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คำสั่งให้ตำรวจทั้ง 12 นายช่วยราชการดังกล่าว สืบเนื่องจากมีการนำหลักฐานแสดงในที่ประชุมสปท. ระบุว่ามีกลุ่มตำรวจสังกัด 191 เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้ประกอบการร้านจำหน่ายอะไหล่รถในพื้นที่กทม. โดยเรียกรับผลประโยชน์รายเดือน เมื่อตรวจสอบแล้วจึงเสนอให้ย้ายตำรวจทั้ง 12 นายช่วยราชาร และตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน