ปส.โชว์ จับยานรก ล็อตมหึมา เฮโรอีน 105 ก.ก. ยาเค 300 โล ยาบ้า 7 ล้านเม็ด

จับยานรก / เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์,

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3, พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในสังกัด แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลายคดี ยาบ้ากว่า 7 ล้านเม็ด

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายสิรวุฒิหรือชัย หาญสกุลหงส์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน กว่า 7,000,000 เม็ด, รถยนต์นั่งสามตอน ยี่ห้อ มิตซูบิชิ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง โดยก่อนเกิดเหตุ ชุดจับกุมสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนพ่อค้ายาเสพติดผ่านทางพื้นที่ภาคเหนือตอนบน นำมาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง อยู่เป็นประจำ

โดยจะใช้เส้นทาง จาก จ.เชียงราย มาถึง จ.นครสวรรค์ ชุดจับกุมจึงดักสกัดจับบริเวณอุโมงค์ลอดทางแยกเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ถนนสายนครสวรรค์-โกรกพระ (3005) ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ก่อนจับกุมไว้ได้ขณะขับรถยนต์ดังกล่าว

ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้ากว่า 7,000,000 เม็ดซุกซ่อนไว้ จึงแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นคดีเก่าที่ได้ขยายผลติดตามมานานมากพอสมควร ซึ่งพฤติการณ์ที่พบจะมีขบวนรถนำและรถตาม รวมถึงเลือกใช้เส้นทางรองเพื่อหลีกหนีด่านมาหลายครั้ง โดยได้รับนโยบายจาก รอง ผบ.ตร.เพื่อปรับแนวทางการตั้งด่านสกัดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าทำครั้งแรก ปลายทางคาดว่าจะไปส่งลูกค้าทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลการสืบสวน พร้อมติดตามยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมต่อไป

รวบต่างชาติขนเฮโรอิน

คดีที่ 2 จับกุมนายเกียน ฌอง วี อายุ 38 ปี ชาวไอวอรี่โคสต์ พร้อมโคคาอีนจำนวน 93 ก้อน น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ซุกซ่อนไว้ในช่องท้อง แจ้งข้อหา “นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 3 จับกุมนางพิไลวรรณ โอโกโร่ อายุ 36 ปี พร้อมยาบ้า ประมาณ 2,000 เม็ด ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซี่ ประมาณ 28,000 เม็ด จับกุมได้ที่อาคารพีพีเพลส ซ.รังสิต-นครนายก 20 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังชุดจับกุมได้ตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศต้นทางจากประเทศฝรั่งเศส

ภายในมียาอี จำนวน 4,200 เม็ด ก่อนขยายผลจับกุมนางพิไลวรรณ และได้นำตัวไปตรวจค้นยังที่พักอีก 3 แห่ง พบยาบ้า ประมาณ 2,000 เม็ด ยาอี 23,800 เม็ด น้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัม จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 4 จับกุมนายณัฐวุฒิ สังข์เลิศ ได้บริเวณ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมเฮโรอีน จำนวน 278 แท่ง น้ำหนักประมาณ 105 กิโลกรัม เคตามีน ประมาณ 300 กิโลกรัม และรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 2กอ 1802 ตรวจยึดได้บริเวณถนนสายด่านขุนทด-ชัยบาดาล ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

คดีที่ 5 จับกุมนายอรรถชัย หรือบอย ภูเด่น พร้อม ไอซ์ 70 กรัม ยาบ้า 20 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในซอยเนินพลับหวาน ถนนเลียบทางรถไฟ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มค้ายาเสพติด “บอยตลาดยาง” ทราบว่าจะลอบจำหน่ายยาเสพติดที่รีสอร์ตดังกล่าวในซอยเนินพลับหวาน ถนนเลียบทางรถไฟ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์

จนพบนายอรรถชัย มีพฤติกรรมต้องสงสัย เดินอยู่บริเวณลานจอดรถ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นตัว ซึ่งนายอรรถชัย ยอมรับว่าเสพยาเสพติดมา และนำตัวไปตรวจค้นที่คอนโดในย่านพัทยาเหนือ พบไอซ์และยาบ้า จึงจับกุมตัวนายอรรถชัย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อเมอซิเดส เบนซ์ เลขทะเบียน วฉ 3509 กทม. รถยนต์โตโยต้า รุ่นแคมรี่ ทะเบียน ฎข 8 กทม. รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน กบ.8907 สระบุรี นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุมนางฝน กมมะวง อายุ 31 ปี ชาวลาว และนายศักดิ์ดา หรือเหลิม สร้อยเสนา อายุ 44 ปี ชาวไทย พร้อมของกลางยาบ้า ประมาณ 100,000 เม็ด,รถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสสัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กข 3139 ร้อยเอ็ด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

ภายหลังนายอรรถชัย ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อวางแผนล่อซื้อดังกล่าว กระทั่งจับกุมได้ริมถนนเลียบคลองชลประทาน (ข้างวัดป่าศรีโพธิ์ทอง) ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจยึดไอซ์ ประมาณ 600 กรัม ซุกซ่อนในพัสดุต้องสงสัยที่กำลังจะถูกส่งออกไปประเทศอินโดนีเซีย ผ่านบริษัทขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ ตรวจสอบพบต้นทางผู้ส่งจากร้านรับฝากบริเวณซอยนานา ถ.สุขุมวิท และยังมีพัสดุต้องสงสัยอีกชิ้นที่เตรียมถูกนำส่งประเทศฝรั่งเศส พบยาอี 4,000 เม็ด จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ส่งตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีปริมาณผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทุกหน่วยงานได้ประสานความร่วมมือกันได้ด้วยดี จนมีผลการจับกุมตามที่เสนอไปหลายครั้ง ไม่ใช่ผลงานของหน่วยใดหน่วยหนึ่ง ขณะที่เครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ได้ปรับรูปแบบการขนยาเรื่อยมา ซึ่งตำรวจก็ต้องเปลี่ยนวิธีการสกัดกั้นเพื่อรับมือ

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวถึง คดีที่มีสองพ่อลูกรับจ้างขับรถบรรทุกขนไอซ์กว่า 467 กิโลกรัม ก่อนเกิดเหตุพลิกคว่ำบริเวณ จ.เพชรบุรี ว่าขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมที่สุดเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 4 คน ซึ่งเป็นนายทุน 3 คน ผู้ลำเลียง 1 คน และหากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบกันต่อไป

ทั้งนี้ ฝากเรียนว่า ของกลางยาเสพติดทั้งหมดที่ตำรวจจับกุมได้ จะถูกนำส่งกระทรวงสาธารณสุขไปเก็บรักษาไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป สำหรับน้ำมันกัญชายังจัดเป็นยาเสพติดประเภท 5 ที่ยังผิดกฎหมายอยู่ โดยผู้ซื้อ ต้องมีแพทย์รับรองสั่งจ่ายให้ หากไปซื้อด้วยตัวเองจะยังเป็นอันตราย หากนำมาใช้คู่กับบุหรี่ไฟฟ้าก็ถือว่าผิดกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน