เผาวอดกลางดึก! ไฟไหม้ ชุมชนริมทางรถไฟตลิ่งชันเสียงบึ้มสนั่น ชาวบ้านปีนหน้าต่างหนีตายอลหม่าน เพลิงลุกไหม้บ้านเรือนนับ 10 หลัง ต้นเพลิงเป็นบ้านเก็บของเก่า ตร.เร่งหาสาเหตุ

ไฟไหม้ / เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 19 ต.ค. ร.ต.ท.คฑาวัฒน์ นวลบัตร รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณชุมชนริมทางรถไฟตลิ่งชัน ถนนบรมราชชนนี แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร นำรถน้ำดับเพลิง จำนวน 10 คันและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ริมทางรถไฟ ช่วงยูเทิร์นใต้สะพานข้างทางรถไฟตลิ่งชัน พบชาวบ้านต่างแตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน และขนสิ่งของเครื่องใช้มาวางกองไว้ บริเวณด้านหน้าชุมชนฯซึ่งเป็นลักษณะบ้านไม้ชั้นเดียวปลูกติดกันจำนวนหลายหลัง พบมีแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมาก

โดยบริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่ทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากจุดเกิดเหตุมีเพียงถนนช่องทางยูเทิร์นช่องทางเดียว ทำให้รถน้ำดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำดับเพลิงขนาดเล็กกว่า 10 เครื่องสูบน้ำจากท่อระบายน้ำขึ้นมาทำการสกัดเพลิง ใช้เวลานานประมาณ 45 นาที เพลิงจึงสงบลง เบื้องต้นพบมีบ้านเรือนของประชาชนถูกไฟไหม้เผาวอดได้รับความเสียหายประมาณ 10 หลังคาเรือน บนเนื้อที่ประมาณ 400 ตารางวา

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

จากการสอบถามนางเรียม แก้วทองสุข อายุ 67 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนอนพักอยู่ภายในบ้าน จู่ๆได้ยินเสียงคล้ายไม้ลั่นเสียงดัง และมีกลิ่นเหม็น จึงลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างออกดูพบแสงเพลิงกำลังลุกไหม้ บริเวณหลอดไฟชายคาบ้านหลังที่ติดกัน โดยบ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่ เจ้าของบ้านใช้เป็นที่เก็บของเก่าเป็นพวกลังกระดาษใส่เบียร์

“จึงเรียกลูกชายให้ตื่น และพยายามจะวิ่งหนีออกจากบ้านแต่แสงเพลิงลามมาปิดทางออก ดิฉันและลูกชายจึงต้องปีนหน้าต่างหลังบ้านหนีตายออกมา เลยไม่ทันได้หยิบเอาทรัพย์สินอะไรออกมา มีเพียงชุดที่ใส่นอนเท่านั้น” นางเรียม กล่าว

ด้านน.ส.แสวง ปานทอน อายุ 64 ปี ชาวบ้านชุนชนริมรถไฟตลิ่งชัน เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่ชุมชนแห่งนี้มาประมาณ 25 ปี ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นเกือบ 10 ครั้ง

โดยในตอนแรกคิดว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกัน จึงเดินออกมาดูก็พบว่า บริเวณบ้านที่เก็บของเก่า มีแสงเพลิงจำนวนมากกำลังลุกไหม้ จึงวิ่งตะโกนขอความช่วยเหลือ พร้อมกับนำเด็กๆและผู้สูงอายุออกจากตัวบ้าน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนจะโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดับไฟ

ร.ต.ท.คฑาวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจำนวนกี่หลัง ซึ่งต้องรอให้เจ้าของบ้านแต่ละหลังคาเรือนมาแจ้งความเสียหายอีกครั้ง ในส่วนการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบเพียงว่าบ้านต้นเพลิงเป็นที่เก็บของเก่าขณะเกิดเหตุไม่มีผู้พักอาศัย หลังจากนี้จะประสานกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ) เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน