กรณีนายธงชัย ศรีใส อายุ 27 ปี พนักงานส่งเอกสารบริษัทแห่งหนึ่ง และนางปราณี อ้นแสง อายุ 51 ปี มารดา เข้าร้องเรียนนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เรื่องด.ญ.วรรณกานต์ ศรีใส หรือ น้องพั้นช์ ลูกสาวคนโตวัย 6 ขวบ ถูกไฟฟ้าที่รั่วจากเสาสปอร์ตไลท์ ภายในลานกีฬาชุมชนวัดคลองเตยใน 3 แขวง-เขตคลองเตย ดูดจนเกือบเสียชีวิต ขณะย่าพาไปเที่ยวเล่นช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ชาวบ้านใกล้เคียงเข้ามาช่วยปั๊มหัวใจแล้วนำส่งโรงพยาบาลก่อนถูกส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อาการเป็นตายเท่ากัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. และเข้าแจ้งความไว้ที่สน.ท่าเรือแล้ว จนผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์ ยังไม่มีใครมาช่วยหรือแสดงความรับผิดชอบ เกรงว่าลูกสาวจะเป็นอันตรายถึงชีวิตและไม่ได้รับความเป็นธรรม
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายธงชัย เดินทางไปรับ “น้องพั้นช์” หลังแพทย์ที่ให้การรักษา อนุญาตให้ญาติพาน้องพั้นช์กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านพักย่านสวนหลวง โดยน้องพั้นช์มีภาวะหัวใจหยุดเต้น จนสมองขาดออกซิเจน จะอยู่ในสภาพเหมือนเจ้าหญิงนิทรา ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาหารด้วยสายยางทางหน้าท้อง และมีอาการเกร็งในบางเวลา ญาติต้องให้การดูแลใกล้ชิด และคอยดูดเสมหะทางคอที่เจาะไว้ เพื่อไม่ให้เสมหะไปอุดตันหลอดลม และมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อรับยาไปทานต่อเนื่อง และที่สำคัญต้องระวังเรื่องการติดเชื้อด้วย
นายธงชัย กล่าวว่า “ที่ผมสู้ชีวิตทุกวันนี้ก็เพื่อลูกสาวทั้ง 2 คน ที่ผ่านมา หลังเลิกรากับภรรยาก็รับดูแลลูกเอง ก่อนหน้านี้ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเป็นน้องของน้องพั้นช์ อายุ 2 ขวบเศษ ก็ประสบอุบัติเหตุตกลงจากโต๊ะ สมองได้รับความกระทบกระเทือน แพทย์ช่วยชีวิตไว้ แต่อาการยังไม่เป็นปกติดี กระทั่งน้องพั้นช์มาถูกไฟดูดจนเป็นเจ้าหญิงนิทราไปอีกคน ผมแทบหมดกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อเห็นหน้าลูกทั้ง 2 คน ก็ต้องลุกขึ้นสู้เพราะเราเป็น “พ่อ” ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทุกวันนี้ก็มีแม่ของผมที่คอยช่วยดูแลหลาน ระหว่างที่ผมต้องออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งได้ตัดสินใจย้ายมาเช่าห้องพักเดือนละ 1,500 บาท ย่านสวนหลวง เพื่อดูแลลูก ถึงแม้จะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นก็ตาม ขอให้ลูกผมเป็นคนสุดท้าย ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบนี้อีก ลานกีฬาชุมชนมีผู้ดูแล และอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขตคลองเตย ก็อยากให้คนที่เกี่ยวข้องช่วยกันออกมารับผิด และต่อไปควรมีการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก
นางปวีณา กล่าวว่า ครอบครัวของนายธงชัย น่าสงสารมากต้องประสบกับชะตากรรมซ้ำซ้อน ลูกสาว 2 คน ต้องมาล้มป่วย ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ และเรื่องของน้องพั้นช์ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ ซึ่งต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม เบื้องต้นตนได้มอบเตียงผู้ป่วยให้กับน้องพั้นช์ เพื่อบรรเทาภาระครอบครัว ทั้งนี้ขอวอนผู้ใจบุญและผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคช่วยเหลือ “น้องพั้นช์” เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องมีค่าใช่จ่ายในการดูแล อาทิ แพมเพิส สายดูดเสมหะ อาหารเหลว ยารักษา และอื่นๆ โดยติดต่อผ่านมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สายด่วน 1134 หรือ 081-8140244 ติดต่อนายธงชัย โดยตรง
“อยากให้มีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมายังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแล ซึ่งอยากเรียกร้องให้กรุงเทพมหานคร เข้ามาดูแลและใช้งบประมาณที่มีช่วยเหลือเด็ก เพราะครอบครัวน้องเขายากจนมาก และอยากให้หน่วยงานรัฐมีมาตรการเฝ้าระวังในชุมชน ไม่ให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก” ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องคดีเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา นางปวีณาได้ประสานไปยังพล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 ขอให้ช่วยเร่งรัดคดีและให้ความเป็นธรรมน้องพั้นช์ด้วย ซึ่งพล.ต.ต.สมประสงค์ รับปาก และสั่งการไปยัง พ.ต.อ.สุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ รอง ผบก.น.5 ให้ดูแลคดีนี้ ขณะเดียวกันนางปวีณาสั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯพานายธงชัย ไปพ.ต.อ.สุชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี น้องพั้นช์ ซึ่งคดีที่ผ่านมาได้แจ้งข้อหาประธานชุมชน กับพวกที่รับผิดชอบลานกีฬาชุมชนวัดคลองเตย ใน 3 กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาด เจ็บสาหัส และอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสรุปฟ้อง หากไม่ทันสัปดาห์หน้าก็จะต้องผัดฟ้องครั้งที่ 2 หลังรับรายงาน พ.ต.อ.สุชาติ ได้กำชับให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และดำเนินการด้วยความรวดเร็ว พร้อมทั้งเรียกคู่กรณีมาเจรจาตกลงค่าเสียหาย หากตกลงกันไม่ได้ต้องนำผลคดีอาญาไปฟ้องร้องทางแพ่งต่อไป
