จับแม่เล้า ลวงสาวไทยขายตัวบาห์เรน อ้างไม่เคยหลอก แค่ให้คำปรึกษาฐานะรุ่นพี่

กองปราบบุก จับแม่เล้า ลวงสาวไทยบังคับขายตัวบาห์เรน อ้างไม่ได้หลอกใครไปค้ากาม แต่ในฐานะรุ่นพี่ ก็เลยให้คำปรึกษากับเด็กใหม่ ที่เพิ่งเดินทางมาถึง

วันที่ 20 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าทำการจับกุม น.ส.ศิริลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาวจ.แพร่ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 70/2561 ลงวันที่ 16 ม.ค. 2561 ข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหา, ร่วมกักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อการค้าประเวณี มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” โดยจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาในพื้นที่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

กองปราบบุก จับแม่เล้า คาบ้านพักในพื้นที่จ.แพร่

พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2560 น.ส.ศิริลักษณ์ และพวก ได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศรับสมัครหญิงสาวหน้าตาดี เพื่อเดินทางไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ ตามบาร์ และงานนวดแผนโบราณที่ประเทศบาห์เรน อ้างว่าจะมีผลตอบแทนสูง ปรากฏว่าเมื่อเหยื่อหลงเชื่อและเดินทางไปถึงยังประเทศบาห์เรน น.ส.ศิริลักษณ์ และพวกก็จะยึดพาสปอร์ต เงินสด และโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็บังคับพาตัวไปค้าประเวณีตามโรงแรมต่าง ๆ เหยื่อบางรายก็ถูกนำไปขายต่อให้กับแม่เล้าคนอื่นๆที่อยู่เครือข่ายเดียวกัน

พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า กระทั่งมีเหยื่อรายหนึ่งที่แอบติดต่อขอความช่วยเหลือกับญาติที่ประเทศไทยได้ จนประสานกับสถานเอกอัครทูต ณ กรุงมานามา เข้าช่วยเหลือนำตัวเหยื่อส่งกลับประเทศได้ จากนั้นก็ประสานตำรวจ บก.ปคม. และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ก่อนที่จะติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการไปได้แล้ว 3 ราย คงเหลือ น.ส.ศิริลักษณ์ ซึ่งเป็นแม่เล้า ที่ยังคงหลบหนี กระทั่งสืบทราบว่า น.ส.ศิริลักษณ์นั้นได้เดินทางกลับมาประเทศไทย ปัจจุบันพักอยู่กับครอบครัวที่จ.แพร่ โดยหันมาทำอาชีพค้าขาย จึงเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด

เจ้าหน้าที่สอบปากคำเบื้องต้นขณะเข้าทำการจับกุม

จากการสอบสวน น.ส.ศิริลักษณ์ ให้การปฏิเสธ อ้างว่า ตนก็เป็นหนึ่งในกลุ่มหญิงไทยที่สมัครใจไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน ซึ่งก็เดินทางไปทำมาแล้วหลายปี ทำให้ที่ผ่านมาจะเป็นคนที่คอยแนะนำ และให้คำปรึกษากับเด็กใหม่ที่เพิ่งจะมาทำงานเป็นครั้งแรก ไม่ได้เป็นแม่เล้า หรือล่อลวงใครตามคำกล่าวหาแต่อย่างใด จึงแจ้งข้อกล่าวหานำตัวส่งตำรวจบก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป