“ป.ป.ส.-ปส.-ตร.” แถลงผลปฎิบัติการชัยยะ สยบไพรี จับ “เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ” รายใหญ่ของประเทศ ยึดทรัพย์กว่า 70 ล้านบาท พบเปิด 16 บริษัทภาคใต้ฟอกเงิน ผบช.ปส.เผยจ่อดำเนินคดีศิลปินดาราเอี่ยวเครือข่าย “ไซซะนะ” บอกใช้ชีวิตสุขสบายมากพอแล้ว ถึงเวลาต้องกินข้าวร้อนนอนคุกเสียที

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 เม.ย. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วยนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการตามยุทธการบูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติดครั้งที่ 5/2560 “เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ” ตามแผนปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 60/3 ในการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการตามยุทธการบูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติดครั้งที่ 5/2560 “เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ” เป็นการดำเนินการร่วมกันของ 10 หน่วยงาน เช่น ป.ป.ส. กรมศุกากร ดีเอสไอ กรมพัฒนาธุรกิจ และตร. เพื่อร่วมกันทำลายเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้กฎหมายหลายตัวเพื่อจัดการกับเครือข่ายครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการในครั้งนี้เรามีเป้าหมายทั้งหมด 9 จังหวัด รวม 54 จุด ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเราได้ทำการสืบสวนสอบสวนมาทั้งหมด สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2559 บช.ปส.ได้ทำการจับกุมนายชาง คิม ซุย และนายลิม เยียน ฮูล ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย พร้อมยาไอซ์ 282 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเราดำเนินการร่วมกันมาโดยตลอด

ด้าน พล.ต.ต.ศุภกิจ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญชาวไทย มาเลเซีย และไต้หวัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดจนสามารถออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายนข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้เพิ่ม 4 ราย คือ 1.นายเซียง หมี่ ซื่อ หรือเก็กกอ หรือเถ้าแก่ภาคเหนือ หรือจิมมี่ ชาวไต้หวัน จับกุมได้ที่จ.เชียงใหม่

2.นายตัน ฮัน เซียง หรือนายอาตัน ชาวมาเลเซีย ถูกจับกุมได้ที่หาดใหญ่ 3.น.ส.วิภารัตน์ การดี ชาวไทย ถูกจับกุมได้ที่จ.เชียงใหม่ และ 4.นางวลัพรรณ เพ็ชรพงษ์ หรือเจ้ฟ่ง หรือฟ่งเจี่ย ชาวไทย จับกุมได้ที่จ.เชียงราย อีกทั้ง เราทราบกันดีว่ามีการขนยาเสพติดผ่านมายังประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาทางภาคเหนือของไทย ลงไปสู่พื้นที่ภาคใต้ ก่อนส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย

พล.ต.ต.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า จากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนสามารถติดตามยึดอายัดทรัพย์สินได้ 36 รายการ ประกอบด้วย เงินสดทั้งสกุลไทยและต่างประเทศ กว่า 30 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร 17 บัญชี มูลค่ารวม 7 ล้านบาท บ้าน 3 หลัง รถยนต์ 2 คัน ทองรูปพรรณและเครื่องประดับ 2 รายการ และทรัพย์สินอื่นๆ อีก 11 รายการ

ส่วนยาไอซ์ที่สามารถจับกุมได้นั้น จากการสอบสวนทราบว่าเป็นของนายตัน ซึ่งอาศัยอยู่ที่หาดใหญ่ โดยลำเลียงยาใส่รถเซฟ เพื่อส่งไปขายยังประเทศมาเลเซีย โดยทำมาแล้วหลายครั้งและครั้งละเป็นร้อยกิโลกรัม ซึ่งผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ เป็นผู้ซัดทอดว่ารับยาไอซ์มาจากนายตัน ทั้งนี้ จากการสืบสวนยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการฟอกเงิน โดยการเปิดบริษัทต่างๆในพื้นที่ภาคใต้ อีก 16 บริษัท เป็นธุรกิจประเภทโรงแรม ปล่อยเงินกู้ และสถานบันเทิง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพื่อดำเนินการต่อไป

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า เครือข่ายไอซ์ข้ามชาตินี้เป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนหลายพันล้านบาททั้งในและนอกประเทศ และมีบุคคลหลายอาชีพทั้งคนไทยและต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้จำนวนมาก

ส่วนผู้บ่งการรายใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าตอนนี้อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ ทั้งนี้ เครือข่ายดังกล่าวยังมีความเชื่อมโยงกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา และนายสีสุก ดาวเฮือง สองผู้ต้องหาชาวลาวที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ บช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมและยึดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายของนายไซซะนะว่า มีหลักฐานแน่ชัดแล้ว หลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีศิลปินดาราเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้ อีกทั้ง คนพวกนี้ใช้ชีวิตสุขสบายมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องกินข้าวร้อนนอนคุกเสียที

ด้าน นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า การจับกุมยาไอซ์ 282 กิโลกรัม เมื่อปี 2559 จึงได้สืบสวนสอบสวนกระทั่งจับกุมได้ดังกล่าวนั้น เราใช้ระยะเวลาในการดำเนินการติดตามเป็นเวลา 1 ปี ก่อนนำไปสู่การเข้าตรวจค้น 9 จังหวัด 54 จุด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมออกคำสั่งเกี่ยวกับการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด

หลังจากนี้เราจะขยายผลต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เราเข้าไปเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมมา ซึ่งเราจะให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงกฎหมายของกรมสรรพากรด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน