วันที่ 20 เม.ย. ร.ต.อ.ศิริพงษ์ ลาพานิช รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุรถยนต์ต้องสงสัยหลบหนีการจับกุมและเสียหลักชนรถยนต์จำนวนหลายคัน บริเวณถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รองผกก.สส.สน.ห้วยขวาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลนฝั่งมุ่งหน้าสามแยกอีซูซุ บริเวณไหล่ทางด้านขวา พบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ร 0823 กทม. ชนต้นไม้บนฟุตปาธ พังเสียหายยับเยินทั้งคัน ยางหลังฝั่งด้านซ้ายถูกยิงจนแตก ใกล้กันพบรถจยย.ฮอนด้าเวฟ 100 พ่วงข้างขายไก่ย่าง สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพล้อหน้าและพ่วงข้างบิดเบี้ยว ห่างออกไปประมาณ10 เมตร พบรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มจ 2282 กทม. ด้านท้ายรถบุบได้รับความเสียหายเล็กน้อย และรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน 1มก 265 กทม. กระจกท้ายรถแตก ท้ายรถด้านซ้ายพังเสียหาย เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จากนั้นการตรวจสอบภายในรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค พบนายจิรานนท์ หรือจิ ไพฑูรย์ อายุ 25 ปี อดีตสมาชิกแก๊งโอรส เป็นผู้ขับขี่ และนายกร (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี คนนั่งข้างคนขับ ส่วนในรถพบอาวุธปืนลูกซองยาว แบบบรรจุ 5 นัด โดยภายในรังเพลิงบรรจุกระสุน 1 นัด และกระสุนปืนจำนวนหนึ่งวางอยู่ด้านหน้ารถฝั่งคนนั่งข้าง นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก 1 กระบอก วางอยู่เบาะหลังอีกด้วย จากนั้นจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ห้วยขวาง

นายทองสุก ชูแสง อายุ 60 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทะเบียน 1มก 265 กทม. กล่าวว่าขณะที่ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ริมถนนเทียมร่วมมิตร ก็ได้ยินเสียงรถเบรกเสียงดัง จึงหันไปมองก็เห็นรถเก๋งฮอนด้าซีวิค กำลังเสียหมุนอยู่กลางถนน แล้วไถลจนท้ายรถฟาดเข้าที่ท้ายรถของตน ทำให้รถของตนไปกระแทกกับรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ด้านหน้าอีกที จากนั้นรถเก๋งฮอนด้าก็ไถลไปอีกประมาณ 10 เมตร ไปชนกับรถเข็นขายไก่ย่าง และพุ่งชนต้นไม้ริมถนนรถจึงหยุดนิ่ง จากนั้นก็มีชายลงมาจากรถแล้วพยามจะวิ่งหนี แต่เจ้าหน้าที่ที่ติดตามมาสามารถเข้าควบคุมตัวไว้ได้ทันท่วงที

ต่อมาทางพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. และเดินทางมาที่สน.ห้วยขวาง เพื่อสอบปากคำด้วยตัวเอง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากนายจิรานนท์ นัดแฟนเก่ามาเจอบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อเคลียร์เรื่องความสัมพันธ์ ซึ่งแฟนเก่านั้นได้ทิ้งนายจิรานนท์ ไปมีความสัมพันธ์ใหม่ ทำให้นายจิรานนท์ นัดมาพบหน้าหมายจะยิงให้ตาย แต่หญิงสาวได้แจ้งตำรวจให้ช่วยสกัดจับเสียก่อน จากการตรวจสอบประวัตินายจิรานนท์ พบว่ามีหมายจับค้างเก่าของบช.ปส. เมื่อปี 59 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

จากการสอบสวนนายจิรานนท์ ให้การโดยอ้างว่า ตนเคยอยู่ในแก๊งโอรสก่อนจะติดคุกในคดียาเสพติด และเมื่อออกมาได้มาคบกับหญิงสาวคนดังกล่าวมาแล้ว 3 ปี ต่อมาหญิงสาวได้ทิ้งตนกลับไปหาแฟนเก่า วันนี้จึงได้นัดออกมาพูดคุยเคลียร์ปัญหาความรัก แต่ถูกจับกุมเสียก่อน ส่วนปืนนั้นซื้อมาได้ 2 ปีแล้ว โดยปืน 9 มม. ซื้อมา 60,000 บาท ส่วนปืนลูกซองซื้อมา 20,000 บาท ปกติตนจะไม่ได้พกปืนทั้ง 2 กระบอก แต่จะเก็บไว้เพื่อเฝ้าสวนแถวฝั่งธนบุรี วันนี้ตนตั้งใจจะนำมาเพื่อเคลียร์ปัญหาความรักให้จบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายจิรานนท์และนายกร ในข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน