ประสานกองปราบ-โรงพักพระพุทธยาท คลี่ปมฆ่า เซลล์สาว ยัดเก๋งทิ้งน้ำนาน 3 ปี เผยเก็บดีเอ็นเอแม่ตรวจเทียบโครงกระดูก
จากกรณีพบศพ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลล์สาวขายปุ๋ย ถูกฆ่าโหดคารถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน พัลซ่าร์ ทะเบียน 4กฐ6348 กทม. ก่อนอำพรางศพทิ้งในคลองน้ำชัยนาท-ป่าสัก เป็นเวลานาน 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก โดยเจ้าหน้าที่พบรถเก๋งสภาพดินโคลนเต็มรถ ตะไคร่น้ำจับตัวถังรถทั้งคัน กระจกหน้าแตก กระจกประตูหลังซ้ายแตก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 10 ต.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.หนองโดน ว่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.00 น. ได้รับแจ้งเหตุพบรถยนต์ตกน้ำลอยอยู่บริเวณคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก ม.1 ต.บ้านโปร่ง อ.หนองโดน จ.สระบุรี
จากนั้น พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สภ.หนองโดน พร้อมพนักงานสอบสวนเวร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุ พร้อมได้ประสานมูลนิธิใช้รถยกลากรถยนต์ดังกล่าวขึ้นมาจากคลองชลประทาน
สภาพรถของ เซลล์สาว หลังเจ้าหน้าที่พบจมอยู่ในคลองน้ำชัยนาท-ป่าสักนาน 3 ปี
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 4กฐ-6348 กทม. ภายในรถคันดังกล่าวพบโครงกระดูกมนุษย์ จำนวน 1 โครง และได้ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถพบว่าผู้ครอบครองชื่อ น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี จึงประสานไปยัง นางลั่นทม วงษ์สิงห์ ซึ่งเป็นแม่ของน.ส.กลิ่นเกสร
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยนางลั่นทมได้มาตรวจดูรถยนต์คันดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นรถยนต์ของน.ส.กลิ่นกสร ซึ่งได้หายตัวไปพร้อมกับรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งนางลั่นทมเคยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2559 และได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จว.สระบุรี ตรวจเก็บวัตถุพยานภายในรถและพบเอกสารใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ จึงได้ทำแผนที่เกิดเหตุ ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอของนางลั่นทม เพื่อส่งไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอจากโครงกระดูกที่พบในรถเก๋งคันดังกล่าว และจะได้สืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป
น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี
รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งโครงกระดูกไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของนางลั่นทม และได้มีการสอบปากคำนางลั่นทมไว้เป็นพยานในเบื้องต้น พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องประกอบคดี
“พร้อมทั้งประสานไปยังกองบังการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ในช่วงแรกที่มีการสืบสวน ตรวจค้นตามจุดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับน.ส.กลิ่นเกษรพักอยู่ก่อนหายตัวไป และได้ประสานขอข้อมูลกับสภ.พระพุทธบาท เพื่อขอข้อมูลในช่วงแรกที่มีการแจ้งหายตัวไปของน.ส.กลิ่นเกษร สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบคดี อีกทั้งส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายเพื่อไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
โดยขณะนี้คงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน รวบรวมพยานหลักฐาน รอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ สืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และจะดำเนินตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ หากผู้ใดมีข้อมูลเบาะแส ในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) โทร.1599 หรือ สภ.หนองโดน โทร. 036-397-181 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
