เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนอหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) นำตัวนางผ่องพรรณ ศิริวัฒน์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน หลังหลอกผู้เสียหายลงทุนธุรกิจทัวร์ รวมกว่า 60 ล้านบาท มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวที่บช.ก.

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้สมัครใจเข้ามามอบตัวกับตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลในการติดตามตัว ว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงพรรณรัตน์ จันทรมณี และนายธีระยุทธ บุรัสการ หรือนายโจ้ ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นนายอภิวัฒน์ อัครเดชช์ ซึ่งหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ทั้งสองคนเป็นแฟนคบหาดูใจกัน

นางผ่องพรรณ กล่าวภายหลังเดินทางเข้ามอบตัวกับที่ตำรวจ ว่า วันนี้เข้ามอบตัวเนื่องจากตนเองเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกนายธีรยุทธชักชวนให้ร่วมลงทุน และได้รับการว่าจ้างเป็นฝ่ายธุรการตรวจสอบโรงแรมที่พัก ได้เงินเดือน 3 หมื่นบาท โดยนายโจ้จะสั่งงานผ่านทางไลน์ ตนเองมีหน้าที่เพียงถ่ายรูปสถานที่ส่งรูปผ่านทางไลน์ให้กับนายโจ้ และนายโจ้จะเป็นคนจองและชำระเงิน ส่วนเงินที่ลงทุนไปจำนวน 1.3 ล้านบาท ก็ได้รับเงินปันผลมาโดยตลอด กระทั่งล่าสุดงวดสุดท้ายไม่ได้เงินปันผล โดยนายโจ้อ้างว่าไม่สามารถเก็บเงินลูกค้าได้ครบ และไม่สามารถติดต่อนายโจ้ได้เลยในช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยยืนยันว่าธุรกิจขายบัตรสมนาคุณส่วนลดที่พักนั้นมีจริง

นางผ่องพรรณ กล่าวอีกว่า นายโจ้คบกับหมอบิวมาตั้งแต่ปลายปี 2557 โดยใช้ชื่อหมอบิวเป็นกรรมการบริษัท แต่หมอบิวไม่เคยมีหน้าที่ใดๆ ในการบริหาร ตนเองเห็นเพียงนายโจ้เป็นผู้ดำเนินการสั่งการทุกอย่าง โดยนายโจ้ยังหลอกกลุ่มญาติของหมอบิวให้มาร่วมลงทุนเป็นจำนวนหลายคน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท แต่ช่วงหลังทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกัน จนนายโจ้เคยขู่ฆ่าหมอบิวมาแล้ว เป็นเหตุให้หมอบิวตัดสินใจหนีไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว และขอให้ตนเองช่วยขายรถยนต์ให้กับญาติและคนใกล้ชิด เพื่อนำเงินเป็นค่าเดินทางไปต่างประเทศ หลังเกิดเหตุตนเองได้พยายามติดต่อหมอบิวให้เข้ามอบตัว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยนางผ่องพรรณได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 8 แสนบาทมายื่นขอประกันตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน