จากกรณี รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา อดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อเหตุหลอกลวงกลุ่มเพื่อนอาจารย์ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ ให้นำเงินไปร่วมลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่ที่ตนตั้งขึ้น อ้างว่าจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ร่วมลงทุนร้อยละ 1 ต่อเดือน จนมีผู้ เสียหายหลงเชื่อกว่า 160 รายที่ นำมาเงินมาร่วมลงทุนด้วย โดยในช่วงแรกก็จ่ายเงินตรงตามกำหนด จนเหยื่อหลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนเพิ่มเติม ปรากฏว่าในระยะหลังไม่ยอมจ่ายเงินปันผล และหอบเงินทั้งหมดหลบหนีไป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,400 ล้านบาท ล่าสุดตรวจสอบบัญชีธนาคารมีเงินเหลือแค่ 5,000 บาท ซึ่งในขณะนี้พบมูลความเสียหายไปแล้วกว่า 443 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 เม.ย.ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.พร้อมคณะพนักงานสอบสวน เข้ารวมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว
ขณะเดียวกันมีรายงาน พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมในคดีนี้อีก 1 ราย คือ น.ส.เมธวัชร์ หรือพชกร คนมั่น อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นสาวหล่อ ในข้อหาโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือกระทำการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มา ซึ่งทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิดมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และกระทำผิดฐานฟอกเงินโดยมีการสมคบกัน ภายหลังพนักงานสอบสวน พบหลักฐานว่าเป็นผู้ที่ได้รับการโอนเงินจาก รศ.ดร.สวัสดิ์
ภายหลังจากศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว ต่อมาพ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป.พร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.4 บก.ป.ได้ติดตามจับกุม น.ส.เมธวัชร์ หรือพชกร ได้ที่จ.เชียงใหม่ ก่อนจะควบคุมตัวมาให้ พล.ต.ท.ฐิติราช สอบปากคำด้วยตนเอง
สำหรับพฤติการณ์ทางคดีว่านับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา รศ.ดร.สวัสดิ์ อาศัยความเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด หลอกลวงสมาชิกสหกรณ์ฯ และผู้ถือหุ้น ให้มาร่วมลงทุนสหกรณ์ลอตเตอรี่ โดยมีสมาชิกสหกรณ์ฯ หลงเชื่อนำเงินมาลงทุน ซึ่งเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.รวม 63 ราย รวมมูลค่าเสียหายกว่า 443 ล้านบาท
โดยพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ฐานฉ้อโกงประชาชน ส่วนน.ส.เมธวัชร์มีหลักฐานว่าตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2559 ได้รับโอนเงินจาก รศ.ดร.สวัสดิ์ หลายครั้ง มีมูลค่ารวมกว่า 62 ล้านบาท ในลักษณะของการรับโอนทรัพย์สินเพื่อปกปิดการกระทำความผิด และเป็นความผิดฐานฟอกเงิน
เบื้องต้น สอบสวน น.ส.เมธวัชร์ ให้การปฏิเสธว่า ตนก็ไม่ได้สนิทสนมหรือเคยเดินทางหรือไปไหนมาไหนกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ โดยรู้จักกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว ครั้งแรกที่รู้จักกันคือที่จ.เชียงใหม่ ตอนนั้นตนกับแฟนและเพื่อนชื่อ “จิ๋ว” ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเพื่อนแนะนำให้รู้จักรศ.ดร.สวัสดิ์ ที่มารับประทานอาหารที่ร้านเดียวกัน ในวันนั้นจำได้ว่ารศ.ดร.สวัสดิ์ นัดพบกับหญิงสาวหน้าตารายหนึ่ง อายุประมาณ 25 ปี ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไรกัน ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมาประมาณ 10 ปี นั้นตนเคยพบกับรศ.ดร.สวัสดิ์ แค่ 4 ครั้งเท่านั้น
น.ส.เมธวัชร์ ให้การต่อว่า ส่วนเงินที่รศ.ดร.สวัสดิ์ โอนมาให้ตนนั้น เป็นเงินที่ใช้เล่นการพนันบาคาร่าออนไลน์ ครั้งละประมาณ 1-2 แสนบาท โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2553 แต่ก็ไม่ได้โอนมาเล่นพนันทุกวัน บางครั้งก็หายไปนานกว่า 2 เดือน รวมยอดเงินที่เล่นพนันทั้งหมดก็น่าจะอยู่ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนตนจะทำหน้าที่เป็นคนกลางที่คอยรับโอนเงิน และยืนยันว่าได้โอนเงินไปหมดแล้ว
ส่วนเว็บไซต์แทงพนันดังกล่าวตนก็ได้รับการแนะนำมาจากเพื่อนอีกทอดหนึ่ง ที่ผ่านมา รศ.ดร.สวัสดิ์ ก็จะเล่นพนันได้บ้าง เสียบ้าง สลับกันไป ขณะนี้ไม่มีเงินเหลืออยู่ที่ตนแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมจะขออำนาจศาล ออกหมายจับบุคคลที่รับโอนทรัพย์สินไปจาก รศ.ดร.สวัสดิ์ หรือนำไปแปลงเป็นสินทรัพย์อื่นๆ โดยจะพิจารณาเรียกบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่งมาสอบปากคำ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นบุคคลใดบ้าง
ส่วนการติดตามจับกุมตัว รศ.ดร.สวัสดิ์ นั้นจากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าน่าจะยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ทราบพื้นที่ซึ่งมีการหลบซ่อนและใกล้จะถึงตัวผู้ต้องหาแล้ว อย่างไรก็ดี ตนยังอยากให้ผู้ต้องหาออกมามอบตัว เพื่อต่อสู้คดีจะดีกว่า
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ส่วนการติดตามเงินจำนวนกว่า 443 ล้านบาท นั้น ขณะนี้สามารถตรวจสอบและติดตามพบเส้นทางการเงินในจำนวนกว่า 60 ล้านบาท ที่พบว่ามีการโอนให้กับ น.ส.เมธวัชร์ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งก็จะประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณายึดทรัพย์สินจากการกระทำความผิด และช่วยติดตามเส้นทางการเงินที่มีการหลอกลวงไปจากผู้เสียหายอีกด้วย
