วันที่ 28 เม.ย. พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้สั่งสนธิกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ชัยภูมิ เร่งจัดชุดสืบสวนภาค 3 ชุดสืบสวนภ.จว.ชัยภูมิ ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ทั้งสภ.เมือง, เกษตรสมบูรณ์, แก้งคร้อ และฝ่ายปกครอง กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมพื้นที่ไล่ล่าตัวนายหมูหยอง วัย 18 ปี ที่ร่วมมือกับนายนายวัชระ หรือน็อต สาแก้ว อายุ 22 ปี พี่ชาย สังหารโหด นายนิรันดร์ สร้อยแก้ว อายุ 25 ปี หนุ่มรูปหล่อ ก่อนเผาและฝังเพื่ออำพรางคดี หลังพบว่าหลบหนีเข้าป่าในพื้นที่เขาภูแลนคา
กระทั่งพบว่านายหมูหยอง ได้หลบออกจากป่าภูแลนคา ในพื้นที่รอยต่ออ.แก้งคร้อ และอ.เมืองชัยภูมิ ออกมาแล้ว จากนั้นได้แอบไปพักอยู่ที่บริเวณในหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำกำลังเข้าตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวได้ ขณะกำลังนอนอยู่บนเปลในสวนของชาวบ้าน ละแวกดังกล่าว ก่อนคุมตัวมาสอบสวนขยายผล ที่ กก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ
จากการสอบสวนนายหมูหยอง ได้ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนรู้จักกับนายนิรันดร์ มาตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยการเล่นโปรแกรม bigo ในโซเชียลกลุ่มเพื่อนชายอย่างบังเอิญ และได้มีการพูดคุยกันมาตลอด จากนั้นวันที่ 8 เม.ย. จึงได้วางแผนร่วมกับนายวัชระ พี่ชายที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ ว่าให้หลอกมาหาเพื่อจะฆ่าชิงทรัพย์เพราะผู้ตายมีรถเก๋ง โดยมีการวางแผนร่วมกันมาตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. โดยมีการเตรียมจอบและเสียมไว้ จากนั้นตนได้พาผู้ตายไปที่ห้องพัก ก่อนจะลงมือแทงจนเสียชีวิตแล้วนำผ้ามาห่อศพไว้ ก่อนจะไปรับพี่ชายมาอุ้มศพขึ้นรถไปเผาแล้วฝังซ้ำอีกที
ส่วนสาเหตุที่ทำเพราะต้องการรถเก๋งเท้านั้น เพื่อที่จะเอาไปขายซื้อรถจยย.บิ๊กไบก์ ที่อยากได้มานานแล้วเท่านั้น ส่วนพี่ชายก็ต้องการทรัพย์สินอย่างอื่น แต่รถเก๋งของผู้ตายเมื่อเอาไปขายกลับไม่มีใครซื้อ จึงนำไปขายผ่านตลาดมืดเต็นท์รถมือสองที่ กทม.แห่งหนึ่ง ได้ราคาเพียง 25,000 บาท แต่ก็ไม่พอซื้อรถบิ๊กไบก์ในฝัน จนมาถูกตำรวจมาตามจับกุมได้ดังกล่าว ขณะเดียวกันทางชุดสืบสวนได้สอบสวนเพิ่มเติมในคดีค้างเก่า ที่มีอีกหลายคดีก่อนที่จะมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอีกต่อไป
