วันที่ 29 เม.ย. ด.ต.สาคร ยุพาณิชย์ ผบ.หมู่ป้องกันและปราบปราม สภ.เมือง สมุทรปราการ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่นิติบุคคล หอพักย่านซอยบางเมฆขาว ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่ามีคนนำเด็กชายวัย 2 ขวบเศษ มาปล่อยทิ้งไว้ที่ชั้น 2 ของหอพักดังกล่าว จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบว่า บริเวณระเบียงชั้น 2 ด้านหน้าอาคารห้องชุดได้พบเด็กชายอายุประมาณ 2-3 ขวบ นั่งร้องไห้อยู่ที่ระเบียง โดยมีถุงพลาสติกที่ภายในมีเสื้อผ้าสภาพเก่าของเด็กชายคนดังกล่าวอยู่ประมาณ 5 ชุด พร้อมด้วยขวดนมอีกจำนวน 1 ขวด กระป๋องนม 1 กระป๋อง ที่ใส่รวมอยู่ในถุงพลาสติกดังกล่าว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานเจ้าหน้าที่จากศูนย์พักเด็กจังหวัดสมุทรปราการ เข้ามาช่วยดูแลเด็กน้อยคนดังกล่าว
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าอาคาร ได้พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ได้พบเห็นหญิงสาวผมยาวรูปร่างหน้าตาดีอายุประมาณ 30-35 ปี ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างไม่ทราบว่าวินไหน โดยมีเด็กชายคนดังกล่าวนั่งอยู่ระหว่างกลาง ขับเข้ามาทางด้านหน้าหอพัก และหายไปพักใหญ่ก่อนที่จะเดินกลับออกมาตัวเปล่า จึงเชื่อว่าหญิงคนดังกล่าวน่าจะนำเด็กมาปล่อยทิ้งไว้
จากการสอบถามน.ส.รัตนาพร ประทับจิตร อายุ 57 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องชั้นล่าง มีอาชีพรับจ้างเลี้ยงเด็กทั่วไป เล่าว่า ถ้าตนจำไม่ผิดเด็กชายที่ถูกนำมาทิ้งเอาไว้ น่าจะชื่อน้องมีโม่ ที่พ่อและแม่เคยมาจ้างให้ตนเลี้ยงเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งตนจำได้ว่าพ่อและแม่ของเด็กอายุประมาณ 20 ปี ได้พาเด็กชายคนดังกล่าวมาจ้างให้ตนเลี้ยงได้ประมาณ 2 เดือน และแม่ของเด็กชายน่าจะชื่อโม อายุประมาณ 20 ปี แต่หลังจากที่จ้างตนเลี้ยงได้ 2 เดือนพ่อและแม่ของเด็กได้มารับเด็กกลับไปโดยบอกว่าไม่มีเงินที่จ้างตนให้เลี้ยงลูกแล้ว และเคยติดต่อคุยกันทางไลน์
น.ส.รัตนาพร จึงได้ไปสอบถามนางสาวโม โดยตอบกลับมาว่า ตอนนี้หนูมาทำงานอยู่ต่างจังหวัด และได้ไลน์ถามไปว่าใครเป็นคนเอาน้องมีโม่มาทิ้งไว้ที่หอพัก แม่เด็กได้ตอบกลับมาว่าไม่รู้ เพราะตนได้แยกทางกับสามีเก่าได้ประมาณ 2 เดือนเศษแล้วและย้ายมาอยู่กับแฟนใหม่ที่ต่างจังหวัด ส่วนลูกตนปล่อยให้อยู่กับสามีเก่า เพราะตอนที่หนูแยกทางมาก็ลำบากใจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าหญิงสาวคนที่เอาเด็กมาทิ้งไว้น่าจะเป็นแฟนใหม่ของพ่อเด็ก คาดว่าน่าจะประสบปัญหาเลี้ยงไม่ไหวหรืออาจถูกรังเกียจ ไม่ใช่ลูกตัวเอง เพราะเชื่อว่าคนที่เคยมาจ้างเลี้ยงน้องมีโม่ จะเอาไปดูแลได้ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศูนย์พักเด็กจังหวัดสมุทรปราการ ได้นำเด็กชายไปดูแลชั่วคราว ส่วนเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหญิงสาวคนที่กล่องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
