เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า จากกรณีนายอุดม และนางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยา หมู่ที่ 4 บ้านโนนสะอาด อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เข้าไปเก็บเห็ดในป่าแล้วถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 และส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถาง ก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการกระทำให้เสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรารัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีนี้ตำรวจสภ.ยางตลาด เมื่อทำการสอบสวนตามพยานหลักฐาน และได้ส่งสำนวนไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ จากนั้นหลังอัยการส่งฟ้องศาลชั้นต้นได้นัดพร้อม เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 ซึ่งนายอุดมและนางแดงให้การรับสารภาพในศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นจึงสั่งลงโทษจำเลยทั้งสองคน โดยไม่การสั่งสืบเสาะและพินิจจำเลยตามความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แต่เนื่องจากการกระทำเป็นความผิดหลายกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาที่ร่วมกันแผ้วถาง ก่นสร้าง ทำไม้ฯ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีโทษหนักตามกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกคนละ 11 ปี และฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 19 ปี รวมจำคุก 30 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกคนละ 15 ปี และริบของกลางทั้งหมดกับให้จำเลยทั้งสองคน คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสองออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติที่เข้าไปครอบครองด้วย

ต่อมาหลังทนายผู้ต้องหาประกันตัวได้ยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2555 แก้ให้เป็นลงโทษาจำคุก 14 ปี 12 เดือน ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้ทนายฎีกาคำสั่งและยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 และศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เวลา 09.00 น. และเป็นคดีที่สื่อให้ความสนใจและมีการนำเสนอข่าวอย่างกว้างขวางนั้น

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายสงกานต์ อัจริยะทรัพย์ ทนายความ พร้อมด้วยนายอุดม และ นางแดง ศิริสอน สองตายายเก็บเห็ดที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันบุกรุกแผ้วถางป่า เข้าพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามหมณกุล รองผบ.ตร. เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองระหว่างรอคำพิพากษาศาลฎีกาในวันที่ 2 พ.ค.นี้ เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะเมื่อเดือนมีนาคม 2559 มีข้าราชการหน่วยงานรัฐกว่า 10 นาย นำรถยนต์กระบะขับเข้าไปที่บ้านพัก ลักษณะข่มขู่ จึงหวาดกลัว

นายอุดมยังระบุว่า สิ่งที่ยังกังวลคืออิทธิของเจ้าหน้าที่ กลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ส่วนผลคำพิพากษาไม่ว่าจะออกมาอย่างไร ตนพร้อมจะยอมรับและไม่คิดจะหนีไปไหน ทั้งนี้เรื่องการเก็บเห็ดนั้นทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ จึงไม่คิดว่าจะมีความผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน