เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงการติดตามตัว นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาหนีหมายจับว่า หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการติดตามตัว ส่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่เช็คการเดินทางเข้าออกประเทศเท่านั้น ถ้าหากนายวรยุทธ เข้ามาไทยระบบก็จะแจ้งเตือน ส่วนกรณีของนายวรยุทธ ได้เดินทางออกไปก่อนที่ศาลจะออกหมายนั้น ก่อนหน้าพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ก็ไม่ได้มีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ เนื่องจากเป็นคดีขับรถชน เป็นคดีประมาท ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ และนายวรยุทธ ก็ได้มอบตัวและขอสู้คดี ดังนั้นจึงไม่มีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ ซึ่ง สตม. เป็นเพียงหน่วยปฏิบัติ ไม่มีอำนาจสั่งห้ามใครเข้าออกอยู่แล้ว เขาก็สามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างอิสระ
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลการเดินทางเข้าออกของนายวรยุทธ พบว่ามีการเดินทางเข้าออกประเทศหลายครั้ง ล่าสุดเข้ามาเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 และเดินทางออกไปเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่าน มีปลายทางที่ประเทศสิงคโปร์ ส่วนจะเดินทางออกไปที่ไหนหรือประเทศใดต่อนั้นไม่สามารถเช็คได้ เพราะอยู่นอกเหนือประเทศไทยแล้ว ส่วนกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนช่วยเหลือนายวรยุทธ หลบหนีนั้น เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อย่างที่ย้ำว่าสำนักตรวจคนเข้าเมืองเป็นหน่วยปฏิบัติ ไม่มีอำนาจสั่งห้ามใครเข้าออก
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวภายหลังประชุมครม.กรณีที่ตำรวจส่งเรื่องให้กรมการกงสุล ดำเนินการถอนพาสปอร์ตนายวรยุทธ อยู่วิทยา ว่า ยังไม่เห็นหนังสือ ส่วนขั้นตอนจะต้องมีหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ดูแลเรื่องนี้แจ้งมา เหมือนหลายกรณีในอดีต แต่ถ้าถึงขั้นมีการตัดสินโดยศาลแล้วหลบหนี ก็ต้องแจ้งอีกหน่วยงานหนึ่ง ทั้งนี้เมื่อหนังสือส่งมาแล้วก็ต้องพิจารณาไม่ใช่ถอนตามตัวหนังสือที่แจ้งมาทันที ต้องดูว่าสิ่งที่ปรากฎในหนังสือมีความชัดเจนหรือไม่ เพื่อไม่ให้มีผลในด้านใดด้านหนึ่งที่กระทบกลับมา พิจารณามุมกฎหมายด้วย ส่วนจะใช้เวลาเท่าใดก็แล้วแต่ ถ้าจะรีบวันเดียวก็เสร็จ และทุกอย่างลงตัวไม่มีข้อกังขาก็สั่งถอน และคำว่าถอนนั้นคือเขาถือหนังสืออยู่แต่เราจะแจ้งไปที่สถานทูตไม่ใช่ไปเรียกคืน ส่วนการตัดสินคดีเป็นอีกเรื่องที่อาจขอให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งประเทศที่ผู้หลบหนีไปพำนักอยู่เพื่อขอส่งตัวมาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมกังวลว่าเป็นทายาทตระกูลดัง ที่สุดอาจไม่ดำเนินการจริงจัง นายดอน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เพราะนายกฯพูดมาตลอดว่าถ้าไม่ยึดแนวทางกฎหมายจะไม่สามารถทำงานได้ ทุกอย่างจะรวนไปหมด ซึ่งพูดถึงทุกกรณี ไม่เฉพาะกรณีนี้
