หนุ่มอุทัยฯถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นทหารเรียกค้นรถ บนถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี บอกมาจับยาเสพติด หนุ่มเชื่อใจปล่อยให้ค้น ก่อนชิงทรัพย์ไป 5 หมื่นบาท พร้อมกุญแจรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสกัดจับรถแต่ยังไร้วี่แวว
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ภูชื่นบาน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนรับแจ้งเกิดเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณศาลาริมทาง ถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรุดพร้อมด้วย ร.ต.อ.สกล อุปัญญ์ รองสวป. และตำรวจชุดสืบสวน ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบนายสุริยะ กุลสุวรรณ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/3 หมู่ 23 ตำบลไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กล 9213 อุดรธานี ภายในรถถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ประตูรถถูกเปิดออกทั้ง 4 ประตู
จากการสอบสวนนายสุริยะ ให้การว่า ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกมาจากบ้านเพื่อนจะกลับที่พัก เมื่อมาถึงบนถนนสายรอบเมืองที่เกิดเหตุมีรถกระบะสี่ประตู ยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับตามมา แล้วส่งสัญญาณไฟสูง บอกให้หยุดรถ จากนั้นก็มีชายฉกรรจ์ 3 คน หัวเกรียน อ้างว่าเป็นทหารที่อยู่ในชุดแต่งกายธรรมดา ไม่ได้ใส่เครื่องแบบอะไร อ้างว่ามาดักซุ่มจับยาบ้า ขอตรวจค้นรถของตน
นายสุริยะ ให้การต่อว่า เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ตนจึงยินยอมให้ชายทั้ง 3 คน ทำการตรวจค้น ก่อนที่เขาเปิดประตูรถเข้าไปรื้อค้น แล้วชายฉกรรจ์หยิบเอาเงินจำนวน 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินที่พี่ชายฝากไว้ว่าจะไปซื้อรถจักรยานยนต์มือสองมาซ่อมแล้วขายต่อ ซึ่งตนเก็บไว้ช่องเก็บของที่อยู่ข้างเบรคมือไป พร้อมดึงเอาลูกกุญแจออกสวิทซ์รถของตนไปด้วย จากชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน ไม่พูดอะไรก่อนกลับไปขึ้นรถกระบะของเขา แล้วขับรถมุ่งหน้าไปทางแยกบายพาส อุดร-สกลนคร ทำให้ตนไม่สามารถขับรถตามชายฉกรรจ์ได้ จึงได้โทรแจ้งตำรวจดังกล่าว
หลังจากนั้นร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ภูชื่นบาน จึงแจ้งศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ให้สกัดรถกระบะของคนร้าย แต่ก็ยังไม่สามารถติดตามได้ จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณสี่แยกไฟแดงเส้นทางที่คนร้ายขับหลบหนีไปในการติดตาม แก๊งหัวเกรียนที่ชิงทรัพย์เงินสดผู้เสียหาย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
