เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการทำงานของผู้แทนพิเศษรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนหน้า เพื่อแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า หลังจากนี้ครม.ส่วนหน้าจะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 9 ข้อ ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง ความปลอดภัย การพูดคุยสันติสุข ฯลฯ เพราะแต่เดิมยังไม่มีการบูรณาการ เช่น ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) บางช่วงก็อยู่ในการควบคุมของฝ่ายการเมือง ซึ่งหากเล่นการเมืองจะแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้ เพราะจะมีทั้งผู้พอใจและไม่พอใจ

วันนี้ประเทศชาติกำลังเดือดร้อน มีคนใช้วิธีการสกปรก บิดเบือนเรื่องต่างๆ เช่น เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องเหล่านี้ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องแก้ไขทั้งระบบ หากปล่อยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองจะไม่มีความคืบหน้า ดังนั้นจึงให้แต่ละหน่วยงาน ได้กลั่นกรองแผนดำเนินการก่อนจะเสนอครม. ให้มีความสอดคล้องระหว่างแผนงานดำเนินการกับนโยบาย และจะเพิ่มการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่ทันสมัย มีการเฝ้าระวังโดยกล้องซีซีทีวี ที่ผ่านมาการทำงานกระจัดกระจาย จึงต้องส่งคนลงไปทำงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนด้านเศรษฐกิจได้มอบหมายให้หาแนวทางป้องกันความซ้ำซ้อนของงบประมาณ โดยต้องดูแลทั้งฝ่ายความมั่นคงและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ประชาชนต้องได้รับประโยชน์ โดยจะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ ให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความมั่งคั่ง แต่การที่จะลงทุนในพื้นที่ต้องมีความปลอดภัยเกิดขึ้น

“ต้องช่วยให้ประชาชนเกิดความเข้มแข็งไม่หวาดกลัวอิทธิพลของโจรห้าร้อย ไม่ใช่มัวแต่ติดปัญหาประเด็นสิทธิมนุษยชน เพราะเวลาที่คนเหล่านี้ฆ่าทหารตำรวจ ประชาชนทั้งไทย พุทธ มุสลิม ทำไมไม่ประท้วงเขาบ้าง ต้องมองว่ารัฐกำลังแก้ปัญหา แต่กลับเอาปัญหาอื่นมาจับรัฐ ไม่ไปจับคนทำ ไม่ดูว่าประชาชนเดือดร้อน ขณะที่การลงทุนก็รออยู่ 1.6 หมื่นล้านบาท มีการเสนอมาแล้ว ทั้งอุตสาหกรรมยาง เกษตร อาหารฮาลาล แต่ก่อนหน้านี้ให้สิทธิพิเศษ 3 เท่า ก็ยังไม่ไปเลย จะลงไปได้หรือไม่เขาให้ผมรับรองความปลอดภัย และถ้าทหารทำอย่างเดียวคงไม่ได้ สังคมต้องเรียนรู้ คนในภาคใต้ 2 ล้านกว่าคน แล้วโจรมีกี่คน รู้จักกันก็เตือนกันให้มาสู้กันตามกฎหมาย รัฐบาลมีมาตรา 21 โครงการพาคนกลับบ้าน ดูแลอยู่แล้ว อดีตเป็นอะไรผมจะพยายามไม่พูดถึง แต่จะหาประเด็นความร่วมมือ เพราะความขัดแย้งมีอยู่แล้ว” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า คณะผู้แทนพิเศษรัฐบาลจะปฏิบัติหน้าที่ได้เมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผ่านขั้นตอนครม.รับทราบแล้ว และได้เซ็นแต่งตั้งคณะผู้แทนพิเศษไปแล้ว โดยทั้งหมดมีมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวคุ้มครองอยู่แล้ว จากนั้นกระทรวงกลาโหมจะจัดทำรายละเอียดกรอบการทำงานให้มีความสมบูรณ์ เพียงแต่วันนี้เปลี่ยนจากการสั่งการในกรุงเทพฯ ให้ไปทำงานในพื้นที่ เพราะตนและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอยู่มาก จึงลงพื้นที่ได้น้อย อย่างไรก็ตาม ผู้แทนพิเศษสามารถลงไปปฏิบัติหน้าที่ได้ในสัปดาห์หน้า โดยก่อนหน้านี้ทั้งรัฐมนตรีช่วยกลาโหมและรัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษา ซึ่งอยู่ในคณะผู้แทนพิเศษได้ทำหน้าที่ลงไปในพื้นที่อยู่แล้ว และการทำงานก็ต้องมีการประเมินผล

เมื่อถามว่า กลัวว่าผู้แทนพิเศษจะทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนเขียนโครงสร้างเอง จะซ้ำซ้อนได้อย่างไร เข้าคำว่าบูรณาการหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่การบังคับบัญชา ผู้แทนพิเศษจะเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ นักศึกษา นักวิชาการด้วย

“ประเทศมหาอำนาจยังทำไม่ได้อย่างเราเลย ถ้าเขาทำก็คงเอากำลังไปกวาดล้าง ผมจะทำให้แบบนั้นเอาไหม เอาทหารทั้งกองพันไปลุยมันทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ เอาไหม” นายกฯ กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน