เมื่อวันที่ 3 พ.ค. พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงกรณีมีการนำเสนอข่าวผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้เปิดเพจ “รับซื้อขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม” จูงใจโดยการให้ผลตอบแทนสูง ว่า อยากให้ประชาชนระมัดระวังว่าการชักชวนดังกล่าวอาจเป็นการกระทำที่ไม่ประสงค์ดี อาจเข้าข่ายต้มตุ๋น และอาจเข้าเกณฑ์การฟอกเงินด้วยนั้น ปัจจุบันมีรูปแบบการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินผ่านอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก และถูกปรับเปลี่ยนไปให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวต่อว่า ปปง. จึงมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชนที่อาจจะพบเหตุการณ์เช่นนี้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนว่า “การรับซื้อขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม” ดังกล่าวอาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวงให้โอนเงิน หรืออาจเข้าข่ายการรับจ้างเปิดบัญชี จึงขอแจ้งเตือนว่าอย่าหลงเชื่อ จนนำไปสู่การซื้อหรือขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม เพราะอาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน

ส่วนผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีและใช้บัญชี การกระทำดังกล่าวเป็นการให้ความร่วมมือกับมิจฉาชีพด้วยวิธีการรับจ้างเปิดบัญชี เพื่อใช้ในการหลอกลวงให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อโอนเงิน เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ปปง. จะตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ จนนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในที่สุด และจะดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน กับผู้ที่จ้างให้เปิดบัญชีและผู้รับจ้างเปิดบัญชีอย่างเด็ดขาด และถึงที่สุดเช่นกัน ทั้งนี้ความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท

หากมีข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือสงสัยว่าอาจจะโดนหลอกลวงให้โอนเงิน สามารถโทรสอบถามได้ที่หมายโทรศัพท์สายด่วน ปปง. 1710 และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ปปง. จะใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการดำเนินการในคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างรอบคอบรัดกุม บนพื้นฐานของความยุติธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน