เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายวัฒนา เมืองสุข พร้อมทีมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อุทัย เหล่าสิล รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อยื่นเอกสารทางวิชาการเพิ่มเติมหลังถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีนายวัฒนาโพสต์เฟซบุ๊ก “หมุดที่หายเป็นสมบัติของชาติ” ซึ่งเป็นหมุดของคณะราษฎร บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นโบราณวัตถุ เป็นความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม

นายวัฒนา กล่าวภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า วันนี้มายื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย เบื้องต้นให้การปฏิเสธเนื่องจากสำนวนอยู่ในชั้นพิจารณาแล้ว ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอีก

โดยขั้นตอนของพนักงานสอบสวน คือมีคนไปแจ้งความและได้รับเป็นคดีจึงดำเนินการสอบสวน ถ้าข้อกล่าวหามีมูลก็สั่งฟ้อง หากไม่มีมูลก็สั่งไม่ฟ้อง ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ตนไม่อยากก้าวล่วง เพราะมองว่าอาจเป็นการแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนระยะเวลายังไม่ทราบ พนักงานสอบสวน จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนดำเนินการสรุปสำนวนส่งอัยการว่าพอสั่งฟ้องหรือไม่

ตนยื่นคำให้การพอเพียงแล้ว แต่หากพนักงานสอบสวน มีประเด็นสงสัยอาจเรียกตนมาสอบถามเพิ่มก็ได้ ทั้งนี้ ตนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นความคิดเห็นทางวิชาการที่รัฐธรรมนูญ ปี 2560 รับรองไว้ ซึ่งการที่จะเป็นความเท็จต้องมีความจริง ส่วนความเห็นเป็นเท็จหรือจริงไม่ได้ อยู่ที่มุมมองของแต่ละฝ่าย อย่างไรก็ตาม เรื่องหมุดคณะราษฎรตนไม่ขอพูดถึงแล้ว

นอกจากคำให้การแล้ว นายวัฒนายังแนบความเห็นของนักวิชาการ 2 ท่าน คือ ศ.จ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ ศ.จ.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ

พ.ต.ท.อุทัย เปิดเผยว่า เพียงมารับหนังสือแทนพ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รองผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เจ้าของคดี เบื้องต้นได้รับหลักฐานเป็นเอกสารคำให้การของนายวัฒนา เป็นลายลักษณ์อักษรจำนวน 5 หน้า ทั้งนี้ ต้องรอพ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร เรียกสอบปากคำอีกครั้งในฐานะผู้ต้องหาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน