เศร้า! แม่ร่ำไห้สูญเสียเสาหลัก ใส่รูปแฟนสาวในโลงลูกชาย เหยื่อ แฟนใหม่หึงโหด ตร.คาดเสี่ยเบนซ์ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ประสานพ่อแม่ถ้าติดต่อมาให้รีบพามอบตัว

แฟนใหม่หึงโหด / กรณีนายอภิสิทธิ์ เนียมมูสิก อายุ 26 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี ใช้ปืนยิง นายปรมินทร์ ทิพย์ประทุม หรือ เจมส์ อายุ 29 ปี อดีตเจ้าของร้านแต่งรถเจ-โน ออโต้แม็กซ์ แอนด์เซอร์วิส เสียชีวิตหน้าร้านสะดวกซื้อ ถ.โฉลกรัฐ 21 หมู่ 1 ต.บางกุ้ง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุขับรถเบนซ์หลบหนีไป ล่าสุดศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี อนุมัติหมายจับ เลขที่ จ.2/2563 ลงวันที่ 4 มกราคม 2563 จับกุมนายอภิสิทธ์ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายอภิสิทธิ์ เนียมมูสิก อายุ 26 ปี ผู้ต้องหา

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ศาลา 2 วัดโพธิ์นิมิตร ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพ นายปรมินทร์ ทิพย์ประทุม อายุ 29 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยายกาศค่อนข้างเงียบเหงา มีญาติๆ เพียง 5-6 คน มาที่งาน โดยทางญาตินำรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบก์ ของผู้ตาย 2 คัน มาจอดไว้หน้าโลง และรูปหมาพิตบูล 2 ตัว พร้อมรูปแฟนสาวของผู้ตายใส่ในโลงศพด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ตายรักมาก

นางภัคจิรา ทิพย์ประทุม อายุ 47 ปี แม่ของนายปรมินทร์ ผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ตายเปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัว เพราะที่บ้านมีกันเพียง 3 คน คือแม่ น้องเจมส์ และลูกชายคนเล็ก ซึ่งขณะนี้เรียนอยู่ชั้นม.6

สำหรับนายปรมินทร์ หรือเจมส์ ลูกชาย ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจเปิดอู่ซ่อมรถและร้านจำหน่ายยางอะไหล่รถยนต์ ร่วมกับ น.ส.แอ๋ม แฟนสาว แต่ภายหลังเศรษฐกิจไม่ดี จึงเซ้งร้านให้คนอื่น และเป็นช่วงที่มีปัญหากับน.ส.แอ๋ม ก่อนจะเลิกราต่อกัน โดยผู้ตายไปร่วมทุนหุ้นกับเพื่อนทำธุจกิจส่งออกมังคุดที่จ.นครศรีธรรมราช และเพิ่งกลับมาคบหาใหม่กับน.ส.แอ๋มอีกครั้ง หลังจากทราบว่าน.ส.แอ๋มเลิกรากับคนร้าย เนื่องจากมาทราบทีหลังว่าคนร้ายเคยมีครอบครัวมาแล้ว และยังไม่เลิกรากันเด็ดขาด ซึ่งผู้ตายก็ให้อภัยน.ส.แอ๋ม พร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่กัน เนื่องจากทั้ง 2 คน เคยรักกันมาก มีความเข้าใจกันดี เคยอยู่กินกันมากว่า 4 ปี

นางภัคจิรา กล่าวต่อว่า สำหรับน.ส.แอ๋มหลังจากเกิดเหตุมีการพูดคุยมาโดยตลอด และมาร่วมงานศพด้วยในคืนแรก เชื่อมั่นว่าน.ส.แอ๋มจะให้การที่มีประโยชน์ต่อรูปคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดและจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างแน่นอน

ส่วนด้านคดีไม่มีความกังวล อะไรแม้จะรู้ว่าทางฝ่ายคนร้าย ครอบครัวจะมีฐานะร่ำรวย เพราะเชื่อและมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายมาให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่จะเผาศพลูกชายในวันพฤหัสที่ 8 ม.ค.นี้

ด้าน พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ออกติดตามตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่านายอภิสิทธิ์จะไปหลบซ่อนตัว รวมทั้งเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักตามถิ่นที่อยู่ ซึ่งเป็นบ้านของพ่อและแม่ที่อ.กาญจนดิษฐ์ แต่ไม่พบตัวนายอภิสิทธิ์ จากการพูดคุยกับพ่อแม่ของผู้ต้องหาแจ้งว่า ยังไม่สามารถติดต่อนายอภิสิทธิ์ได้ หากพบตัวหรือทราบเบาะแสจะรีบนำตัวมาพบพนักงานสอบสวน แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ รวมถึงไม่มีญาติติดต่อเพื่อพามามอบตัว

พ.ต.อ.ศิริชัย กล่าวต่อว่า ตนสั่งกำชับให้ชุดสืบสวนที่ออกสืบสวนหาข่าว และติดตามตัวนายอภิสิทธิ์ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี คาดว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในพื้นที่ หากพบตัวสามารถควบคุมตัวได้ทันที

“หากญาติจะนำตัวนายอภิสิทธิ์มามอบให้กับพนักงานสอบสวนสามารถทำได้ แต่ไม่สามารถเสนอเงื่อนไขหรือข้อแม้ใดๆ ได้ เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นในชุมชนเมือง และหน้าร้านสะดวกซื้อทำให้เป็นที่หวาดกลัวของบุคคลทั่วไป ซึ่งหากญาตินำตัวมาเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นพนักงานสอบสวน ต้องคัดค้านการประกันตัวตามขั้นตอน ซึ่งผู้ต้องหาจะต้องไปยื่นประกันตัวในชั้นศาลเท่านั้น” ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน