ที่แท้เป็นโจ๋วัย 16 โพสต์ทวิตเตอร์ขายยาบ้า-ไอซ์ โจ๋งครึ่ม โอนเงินเสร็จปิดบัญชีหนี จัดส่งพัสดุทั่วประเทศ อัดโปรโมชั่นช่วงปีใหม่ ตร.เร่งขยายผลคาดมีอีกกว่า 100 ราย
โพสต์ทวิตเตอร์ขายยาบ้า / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด สืบเนื่องจากมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ ชื่อ “ขายยาบ้าทุกชนิด ต้องการเคมีตัวไหนทักมา” โดยโพสต์ภาพ ยาบ้า, ไอซ์, ยาเค, บรรจุในซองพลาสติกใส ที่เย้ยกฎหมายขายยาเสพติดทางออนไลน์อย่างไม่เกรงกลัว จนเป็นที่ตื่นตระหนกของผู้ปกครองในการดูแลและห่วงใยบุตรหลานในโลกสังคมโซเชียลจำนวนมาก จนทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้บช.ปส.ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและบช.ปส. ให้ความสำคัญกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติด ผ่านสังคมออนไลน์ เพราะเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา จนกระทั่งติดตามและจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดย พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร.จึงสั่งการให้ บช.ปส. สืบสวน และจับกุมอย่างเด็ดขาด โดยมี พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. กำชับให้ดำเนินการ ตรวจสอบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมให้ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส., พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4, พ.ต.อ ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก ปส 3 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ปปส. ลงพื้นที่จนเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธีรเดช พร้อม เจ้าพนักงานตำรวจ บก.ปส.3, บก.ปส.4 และ บก.ขส. สืบสวน
จนสามารถจับกุม ผู้ต้องหา 2 คน คือ 1.นายมูฮัมหมัดซอบรี ซาซู อายุ 20 ปี (เรียนอาชีวแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต) ชาว อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ ลว.4/2563 ลง 3 มกราคม 2563 2.นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี (ไม่ได้เรียนหนังสือ) ชาว อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เป็นหัวโจกคุมกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านเขาปิหลาย ตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เลขที่ 1/2563 ลง 5 มกราคม 2563
พร้อมของกลาง 1.ของกลางยาเสพติดไม่มี เนื่องจากเป็นการหลอกขายให้โอนเงินแล้วปิดบัญชี 2. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง 3.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 เล่ม 4.บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 2 ใบ
โดยกล่าวหาว่า “โฆษณายาเสพติดให้โทษโดยมิได้รับอนุญาต” โดยจับกุมตัวได้ที่ชุมชนบ้านเขาปิหลาย ม.14 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
พล.ต.ท.ชินภัทร เปิดเผยว่า ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้านี้สืบสวนผู้ใช้ทวิตเตอร์ ชื่อ “ขายยาบ้าทุกชนิด ต้องการเคมี ตัวไหนทักมา” ดังกล่าว จนสามารถขยายผลไปโยงถึงทวิตเตอร์ ใช้ชื่อ “ขายยาตัวใหญ่” ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกัน โดยทวิตเตอร์ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนต.ค.62 มียอดผู้ติดตามกว่า 3,000 คน มีการระบุว่า ชนิดยาเสพติดต่างๆ และราคา พร้อมจัดส่งทางพัสดุไปทั่วประเทศ ซึ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ยังมีโปรพิเศษแถมอีกด้วย การกระทำดังกล่าวเป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง
จนสามารถตรวจสอบว่า นายมูฮัมหมัดซอบรี ซาซู เป็นผู้เปิดใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานของศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1 และเชิญตัว นายเอ นามสมมุติ (เป็นเยาวชน) พร้อมของกลางที่ตรวจยึดมาได้มาขยายผล พร้อมทั้งให้ทางพงส.บก.ปส.3 ขออนุมัติศาลเยาวชนและครอบครัวกลางออกหมายจับที่ 1/2563 ลง 5 ม.ค.63 ทำการแจ้งข้อหากับ นายเอ ในความผิดเดียวกันกับผู้ต้องหาที่ 1
ทั้งนี้สำหรับ ชุมชนบ้านเขาปิหลาย จะเป็นที่รู้กันของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ค่อนข้างจะต่อต้านการทำงานกับทางเจ้าหน้าที่ตลอด เมื่อทางเจ้าหน้าที่เข้าไปก็จะถูกปิดล้อม และเคยมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่หลายครั้ง แต่ในครั้งนี้ชาวบ้านให้ความสะดวกในการปิดล้อม หลังที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหา ทั้ง 2 ได้ ก็มีกลุ่มชาวบ้านชุมชนอิสลาม บ้านเขาปิหลาย เข้ามาแสดงความขอบคุณตำรวจที่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่จนสามารถจับกุมตัวจับกุมตัวการโฆษณาขายยาเสพติด โดยใช้สื่อโซเชียลทวิตเตอร์ได้ หลังแถลงข่าวทาง พล.ต.ท.ชินภัทร เข้าสอบปากคำนายมูฮัมหมัดซอบรี ซาซู ผู้ต้องหาที่ 1
พล.ต.ท.ชินภัทร เปิดเผยว่า นายมูฮัมหมัดซอบรีให้การรับสารภาพอ้างว่า ตนร่วมมือกับนายเอโดยทำมาแล้วหลายครั้ง นานกว่า 6 เดือนโดยตนทำให้หน้าที่เปิดทวิตเตอร์ และเปิดบัญชีธนาคารให้ลูกค้าที่ต้องการยาเสพติดสั่งซื้อยาเสพติด เมื่อลูกค้าสั่งซื้อยามาก็จะโอนเงินเข้าบัญชี จากนั้นก็จะปิดบัญชีทวิตเตอร์หนี และไปเปิดบัญชีทวิตเตอร์ใหม่ เหมือนเป็นการหลอกขายของ ก่อนจะนำเงินมาแบ่งกันกับ นายเอไปซื้อยามาเสพกันในส่วนของนายเอ เป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น ไม่มีพ่อแม่ ไม่ได้เรียนหนังสือ เป็นคนที่สั่งการให้วัยรุ่นในชุมชน เปิดทวิตเตอร์ขายยาเสพติด
ขณะเดียวกันตอนนี้กำลังตรวจสอบ นายเอที่พบว่าก่อนหน้านี้ได้ไปก่อเหตุ ฆ่าวัยรุ่น คนหนึ่งในจ.ภูเก็ต นอกจากนี้ ทางปส.ยังเฝ้าติดตามผู้ที่ขายยาเสพติดออนไลน์อีกจำนวนกว่า 100 ราย
