เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณริมถนนสายคลองฃลประทาน น้ำอูน (ทางหลวงชนบท) ท้ายหมู่บ้านนาดี หมู 14 ต.นาหัวบ่อ อพรรณานิคม จ.สกลนคร หลังมีชาวบ้านเห็นแสงประหลาดลอยออกจากบริเวณต้นตาลระหว่างต้นพอกสูงขึ้นไปบนฟ้า โดยจะเกิดในช่วงค่ำแทบทุกวัน เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งบรรยากาศพบว่ามีชาวบ้านจากทุกหมู่บ้านในตำบลกว่า 100 คน มาปักหลักเฝ้ารอชนแสงประหลาดดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ปักรอชมแสงประหลาดกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีแสงลอยขึ้นมาจากต้นพอก ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นเมื่อแสงลอยขึ้น และออกมาตามถนนในคลองแล้วก็หายไป สักครู่ก็ลอยกลับเข้าไปที่ใต้ต้นไม้ดังกล่าวและก็ดับวูบลง ต่อหน้าคนนับร้อยคนที่มาเป็นสักขีพยาน

ขณะที่ผู้เฒ่ารายหนึ่งในหมู่บ้านกล่าวว่า แสงดังกล่าวจะมีสีเขียวนวลใส เป็นแสงของว่านที่มีอายุแก่มากแล้ว เพราะว่านบางชนิดเมื่อแก่จัดจะมีแสงออกมาให้เห็น บางชนิดลอยไปมา คล้ายคนส่องกบเขียด แต่หากมีคนปลูกไว้ เมื่อแก่จัดจะนำมากู้แล้วไปตากแดด จากนั้นก็จะนำไปปลูกใหม่ได้ เชื่อว่าต้นว่านดังกล่าวที่มีคนนำมาทิ้งไว้นานแล้วเพราะความกลัวอะไรสักอย่างจากนั้นก็ปล่อยไว้ จนโตและมีหัวแก่จัด

“ซึ่งมีทางเดียวที่จะไม่ให้มีแสงขึ้นอีกก็คือต้องนำว่านตรงนั้นไปตากแดดและอย่านำมาปลูกอีก คนโบราณบอกว่าเป็นว่าน “อีเฒ่าหนังหยาบ” หรือว่านกลิ้งกลางดง มีคุณสมบัติอยู่ยงคงกระพัน คนโบราณมักนิยมเอามาบดผสมน้ำมันสักยันต์ตามตัว แต่มีคาถาเก็บและสวดยัดหากใครไม่มีคาถาจะไม่สามารถทำได้และจะเข้าตัว จนกลายเป็นเรื่องของผีปอบได้ เรียกว่าเข้าตัวเองเพราะไม่สามารถเก็บรักษาหรือแก้แสลงต้องห้าม มีทั้งคุณและโทษ” ผู้เฒ่า กล่าวเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ชาวบ้านรู้ความจริงว่าน่าจะเกิดจากว่านก็มีความสบายใจและประกาศห้ามไม่ให้ชาวบ้านหรือใครไปเก็บมาโดยเด็ดขาดเพราะอาจมีปัญหาได้ และหากใบว่านแห้งแล้วไฟแสงที่ลอยขึ้นก็จะหายไปด้วย ช่วงนี้เป็นช่วงที่ว่านแก่จัด จะพบเห็นบ่อยในทางภาคอีสานและภาคเหนือ เนื่องจากมีการนิยมปลูกว่านกันมากและว่านก็ไม่ทำร้ายใคร แต่หากเข้าไปใกล้จะไม่ส่องแสงให้เห็นมองดูคล้ายสิ่งมีชีวิตเพราะคนเข้าใกล้จะไม่ลอยขึ้นมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน