เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ร.ต.อ.สุภาพ อาสา ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ที่ล้มขวาง แล้วมีรถทัวร์ประจำทางที่วิ่งตามหลังมาชนซ้ำอีกจนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เหตุเกิดที่ถนนอรุณประเสริฐ สายยโสธร-อำนาจเจริญ หลัก กมที่ 13 เขตตำบลหนองคู อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลยโสธร
ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 2 สีขาวส้ม หมายเลขข้างรถ 955-1 ทะเบียน 14-0371 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-โขงเจียม จอดอยู่ริมถนนหันหน้าไปทางจังหวัดอำนาจเจริญ ใกล้กับท้ายรถทัวร์ พบศพของนายจวงจันทร์ เรืองโสม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 1 บ้านหนองนกทา ตำบลหนองนกทา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี นอนอยู่ริมถนน
ที่ด้านหน้ารถทัวร์ปรับอากาศชั้น 2 ยังพบรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 สีฟ้า หมายเลขข้างรถ 955-21 ทะเบียน 15-6720 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-โขงเจียม เช่นเดียวกัน จอดอยู่ริมถนนโดยด้านหน้าใต้ท้องรถพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีดำ คันหมายเลขทะเบียน 1กค6995 อำนาจเจริญ สภาพพังยับ นอกจากนี้ ยังพบว่าที่บริเวณกระจกหน้ารถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 มีกิ่งไม้เสียบคาอยู่บริเวณพวงมาลัยรถ หวิดที่จะเสียบทะลุคนขับ ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้โดยสาร
จากการสอบถาม นายวุฒิชัย เรืองโสม อายุ 18 ปี ที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุโดยมีนายจวงจันทร์ เรืองโสม ผู้เป็นพ่อเป็นคนขับขี่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว โดยบิดาเป็นคนขี่ กลับจากไปเที่ยวงานบุญบั้งไฟที่บ้านญาติในเขตอำเภอเมืองยโสธร และกำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ใช้เส้นทางยโสธร-อำนาจเจริญ
พอไปถึงที่เกิดเหตุมีต้นไม้ล้มขวางทางอยู่ก่อนแล้ว แต่บิดามองไม่เห็น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมืดมาก จึงทำให้รถของบิดาตนชนเข้ากับต้นไม้อย่างแรง ตนกระเด็นตกรถ ส่งผลให้บิดาได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากนั้นตนจึงอุ้มพ่อออกไปนอนไว้บริเวณริมถนน และพยายามที่จะนำรถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุ แต่ในระหว่างนั้นมีรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 ที่วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็ว มองไม่เห็นว่ามีต้นไม้ล้มขวางทางและมีอุบัติเหตุอยู่ก่อนแล้ว จึงพุ่งชนต้นไม้ที่ล้มขวางทางอยู่ พร้อมกับลากเอารถจักรยานยนต์ของตนไปไกลกว่า 10 เมตร ซึ่งตนกระโดดหลบหนีเอาตัวรอดไปได้ และอีกไม่ถึง 5 นาที ได้มีรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 2 ที่วิ่งตามหลังมาอีกคัน พยายามหักหลบต้นไม้ที่ล้มขวางทางอยู่ แต่มองไม่เห็นว่าบิดาของตนนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ริมถนน จึงเป็นเหตุให้รถทัวร์ทับซ้ำร่างพ่อของตนอีกจนทำให้พ่อของตนเสียชีวิตคาที่
ขณะที่นายอนุสรณ์ แก้วสวัสดิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 573/25 ถนนสามเสน แขวงวชิระ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร คนขับรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 กล่าวว่า ตนขับรถทัวร์คันดังกล่าวรับผู้โดยสารจากกรุงเทพมหานคร เต็มคันรถเพื่อมุ่งหน้าไปอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุตนมองไม่เห็นว่ามีต้นไม้ล้มขวางทาง และมีรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้อยู่ก่อนแล้ว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมืด ไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางดับ จึงขับรถพุ่งชนอย่างแรง พร้อมกับลากเอารถจักรยานยนต์ไปไกลกว่า 10 เมตร กว่าจะจอดรถได้
ระหว่างนั้นมีรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 2 สายเดียวกันที่วิ่งตามหลังมา โดยมีนายวิฑูรย์ ดาผาวัลย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 บ้านฮี ตำบลคำเจริญ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นคนขับ และพยายามจะหักหลบต้นไม้ไปทางซ้าย แต่มองไม่เห็นผู้บาดเจ็บที่นอนอยู่ริมถนน เป็นเหตุให้รถเหยียบซ้ำไปอีกจนเสียชีวิตดังกล่าว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกคนขับรถทั้ง 3 คัน ไปสอบสวนให้ละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะได้แจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อไป