กรณีมีการเผยแพร่ข้อความบทสนทนาในแอพพลิเคชั่นไลน์ ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ถึงกรณีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งหลอกขายของที่ตัวเองขายให้กับนักเรียนชั้นป.4 เป็นเงินกว่า 3 แสนบาท ก่อนที่ผู้ปกครองจะทราบ และพยายามติดตามทวงเงินดังกล่าวคืน กระทั่งครูรายได้ดังกล่าวได้ชดใช้จนเหลืออีกกว่า 1 แสนบาท โดยตกลงจะนำเงินมาคืนให้ในวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับบ่ายเบี่ยง และมีบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติของครูอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอโทรศัพท์มาข่มขู่และพยายามจะขอเคลียร์ และอธิบดีดีเอสไอสั่งสอบเรื่องดังกล่าวนั้น

อ่านข่าว “อธิบดีดีเอสไอ” สั่งสอบเสธ.อ้างเป็นจนท.หลอกขายของเด็กป.4 สูญเงินกว่า 3 แสน

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการออกคำสั่งให้ “เสธ” ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ โทรไปข่มขู่ครอบครัวของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่หลอกขายของเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท เข้ามาปฏิบัติราชการที่ดีเอสไอ ว่า วันนี้ตนได้เซ็นต์คำสั่งให้ “เสธ” ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายดังกล่าว เข้ามาปฏิบัติราชการที่สำนักงานผู้เชี่ยวชาญดีเอสไอแล้ว ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ

เบื้องต้นพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่มีชื่อเล่นตรงกับที่ปรากฎในข้อมูล ที่มีการเผยแพร่อยู่ในโซเชียลมีเดีย แต่การตรวจสอบข้อเท็จจริง เราจะต้องพิสูจน์ว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดเราจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนการออกคำสั่งย้ายนั้นก็เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความโปร่งใส ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้ระยะเวลาในการสอบข้อเท็จจริง 30 วัน ก่อนจะรายงานข้อสรุปทั้งหมดมาให้ตนทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว ตนได้รายงานให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ทราบแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน